Recent News

Powered by eSnips.com

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

จงยอมรับความเปลี่ยนแปลง

เป็น “ความโง่มากมาย” หากใครสักคนจะดำรงชีวิตโดยคิดว่า ทุกๆวันของตัวเองต้องมีความสุข ความสมหวัง โดยไม่เตรียมใจรับ “ความผิดหวัง” ไว้บ้าง เพราะคงไม่ใครในโลกนี้ที่มีความสุขตลอดชีวิต และมีความทุกข์ระทมตลอดชีวิตเช่นกัน 

คนที่เคยรวย เมื่อต้องมาจนในพริบตา ก็คงยากที่จะทำใจ บ้างก็เลือกที่จะจบชีวิตของตัวเองบนโลกนี้
คนที่เคยมีแฟนที่ดี เมื่อต้องมารับรู้ว่าคนที่เคยบอกรักตัวเองมากที่สุด ไปคบกับคนอื่น ก็ยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้เหมือนกัน


คนที่เคยสอบได้ที่หนึ่ง หลายปีติดต่อกัน เมื่อต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า ปีนี้ตัวเองไม่ได้ที่หนึ่ง ก็ต้องผิดหวังเป็นธรรมดา

แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ที่มา “กระทบจิตใจ”​ ของเรา ก็เป็นธรรมดา ที่เรื่องราวเหล่านั้นอาจทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองของคนๆนั้น

หากทุกคนเข้าใจ “สัจธรรมแท้จริงของโลกที่ว่า ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง” วันนี้สุขสมหวัง พรุ่งนี้ผิดหวัง วันนี้รวย พรุ่งนี้ตกอับ วันนี้เราคือคนที่เขารักที่สุด แต่พรุ่งนี้เขาอาจจะปันใจไปรักคนอื่น ฯลฯ ก็คง “เตรียมตัว” ยอมรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ (แต่ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์ ก็คงยากที่จะยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้เช่นกัน)

ณ วันนี้ที่จิตในของเรายัง “ฟุ้งซ่าน” วนเวียนอยู่กับเรื่องไร้สาระทางโลก ขอให้เราสวดภาวนาเพื่อขอความสว่างภายในจิตใจ (จำลองแบบพระคริสต์ 23:18-26)
พระเยซู พระทัยดีเจ้าข้า โปรดทอแสงสว่างภายในมายังข้าพเจ้า และโปรดกำจัดความมืดมนจากดวงใจของข้าพเจ้าจนสิ้นเชิงด้วยเถิด โปรดระงับความฟุ้งซ่านชอบเที่ยวเตร็ดเตร่ โปรดชะงักการประจญที่โหมกำลังเข้ามา โปรดต่อกรแข็งขันปัดป้องข้าพเจ้า โปรดกำราบพยัคฆ์ร้าย คือความใคร่อันยั่วยวน เดชะอำนาจของพระองค์ สันติภาพจะมีมา แล้วเสียงโห่ร้องฉลองชัยจะดังกึกก้องทั่วท้องพระโรง คือ ทั่วมโนธรรมอันบริสุทธิ์ (ของข้าพเจ้า) โปรดกำจัดลม ระงับพายุ บัญชาสั่งทะเลให้เงียบ ห้ามลมเหนือมิให้พัดมา แล้วความสงบราบคาบจะอุบัติขึ้น โปรดทอแสงสว่าง และความจริงของพระองค์ มายังแผ่นดิน เพราะว่า ตลอดเวลาที่ไม่ทรงไขแสงให้ ข้าพเจ้าก็คือผืนดินอันจืดชืดและไร้ผล โปรดโปรยพระหรรษทานจากเบื้องบน โปรดหลั่งน้ำค้างทิพย์ให้ชุ่มทั่วดวงใจข้าพเจ้า โปรดรดราดน้ำความภักดีบนผืนดิน มันจะได้ผลิตผลดีงามและประเสริฐ ใจข้าพเจ้าถูกกองบาปถมทับไว้ โปรดฉุดมันขึ้น โปรดให้ข้าพเจ้าปรารถนาก็แต่สวรรค์ และเมื่อได้ลิ้มรสความสุขของเบื้องบนแล้ว ให้ข้าพเจ้าเอือมระอา ไม่คิดถึงข้าวของฝ่ายแผ่นดิน โปรดกระชากข้าพเจ้า ดึงข้าพเจ้าออกจากความสุขชั่วแล่นในสัตวโลกทั้งหลาย เพราะว่าไม่สัตวโลกใดเลย อาจให้ความสุข ความอิ่มใจแก่ข้าพเจ้าได้เต็มที่ โปรดใช้ความรักเป็นดังโซ่ไม่รู้ขาด ผูกล่ามข้าพเจ้าติดกับพระองค์ เพราะว่าใครรักพระองค์ คนนั้นมีพระองค์ผู้เดียวก็พอแล้ว และหากขาดพระองค์ ไม่ว่าอะไรล้วนเป็นของมโนสาเร่ทั้งนั้น

เราหวังว่า หากใครได้อ่านเรื่องราวในวันนี้ และรำพึงไปพร้อมๆกัน ก็อาจเจอ “ความบรรเทา” ที่ซ่อนอยู่ (เหมือนที่เราได้ค้นพบ)

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน