หากจะถามว่า เรามีเพื่อนสนิทหลายคนไหม ต้องบอกตามตรงเลยว่า เรามีเพื่อนสนิทหนึ่งคน พี่ที่สนิทหนึ่งคน และ น้องที่สนิทอีกหนึ่งคนเท่านั้น (เพื่อนน้อยมากๆ อาจเพราะเราไม่ค่อยคุยกับใครเท่าไหร่) และเมื่อวานตอนเช้า เราออนไลน์ทางมือถือ น้องที่สนิทเข้ามาทัก และชวนเราไปดูหนัง เราตอบแบบไม่ลังเลเลยทันที “ตกลงค่ะ” แต่เหตุผลหลักๆในการนัดครั้งนี้ ก็คือ เขาต้องการเอาแฟนมาเปิดตัว (แหม ถ้ากล้าเอามาให้พี่เห็นหน้านี่ แสดงว่าต้องมั่นใจคนนี้แน่นอน) เราและน้องที่สนิทจะมีนิสัยที่เหมือนกันมากๆนั่นคือ “เจ้าชู้ เอาแต่ใจ แต่ถ้าได้รัก หรือเลือกใครแล้ว สุดหัวใจเลยทีเดียว” (หากจะคบกันแค่ “ความรัก” อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมี “ความเข้าใจ” และ “ให้อภัย” ด้วย เพราะเมื่อคบไปนาน “ความงี่เง่า” เล็กๆ อาจจะมีผลุบๆโผล่ๆออกมาบ้างเช่นกัน)
เรานัดกันไปดูหนังที่ major บางกะปิ ไปกันสี่คน มีน้องและแฟนเขา เรา และคนขับรถส่วนตัว (ที่ทำหน้าที่เพียงกะเดียวเท่านั้น) น้องเขาตัดสินใจเลือกดูเรื่อง daywalker (ดีจัง เราอยากดูเรื่องนี้อยู่พอดี) บอกตามตรง หนังเรื่องนี้สนุกที่สุด ในช่วง 3 เดือนที่เราดูหนังมาเลย หลังจากที่เราต้องผิดหวังอย่างหนัก หลังจากไปดูเรื่อง the wolfman และ the book of Eli หนังเรื่องนี้ทุกอย่างลงตัวไปหมด (เพื่อนๆคนไหนยังไม่ได้ไปดู เราแนะนำนะคะ) เมื่อดูแล้ว อาจจะ “เหลียว” ให้ความสำคัญกับ “แสงแดด” กันบ้าง (รู้สึกว่าคนสมัยนี้ กลัวแดด กลัวดำ กลัวหมอง แต่อาจไม่ทันคิดว่า ชีวิต และร่างกายของเราต้องการอย่างมาก และเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในชีวิตของเรา) และอีกแง่คิด ใครที่คิดว่า ชีวิตตัวเองไร้ค่า อยากจะฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเอง เมื่อดูเรื่องนี้ อาจจะ “ตระหนัก” ได้ว่า ชีวิตของมนุษย์มีค่า และเลือดทุกหยดของเรานั้น เป็น “พระพร” แค่ไหน
หลังจากดูหนังเสร็จ เราทั้ง 4 ไปต่อกันที่ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ตรงรามอินทรา (เราไม่เคยไป เพราะโดนส่วนตัวเราไม่ดื่มเบียร์) เมื่อไปถึง เราต้องอึ้ง เพราะสถานที่กว้างใหญ่มาก เราค่อยๆเดินลัดเลาะ ผ่านโต๊ะต่างๆไปยังโต๊ะติดหน้าเวที สาวๆอย่างเราดื่มน้ำเปล่า ปล่อยให้หนุ่มๆ เขาดวลเบียร์กันไป มาที่นี่ต้องสั่ง “ขาหมูเยอรมัน” ที่มี “มันบด” เราเป็นคนชอบมันบดอยู่แล้ว และต่อด้วย ข้าวผัดปูจานใหญ่ และผัดผัดบุ้งไฟแดง ทานไป ฟังเพลงไป และดูโต๊ะรอบตัวยืนเต้นไป กล้องจับ และสะท้อนไปที่โปรเจคเตอร์ตัวใหญ่ หลังจากนั่งดูอยู่สักพัก เราก็ถึง “บางอ้อ” ว่า สถานที่แห่งนี้ ไม่เหมาะกับวัยอย่างเราเลย เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่มา “ปลดปล่อย” ความเป็นตัวเองอยู่ที่นี่นั้น สนนอายุ เกิน 40 ทั้งนั้น (สำหรับเรายังไม่ถึงเวลามาที่นี่อ่ะ) แต่ก็แอบยิ้มทุกครั้งที่เห็นรุ่นพ่อ รุ่นแม่ เต้นแบบสุดเหวี่ยง
เราขอแนะนำสถานที่นี้นะคะ ถ้าเพื่อนๆคนไหนไม่มีที่ไป ชอบทานเบียร์ ดูโชว์ ที่นี่เป็น “ทางเลือก” ที่ดี แห่งนึงเชียว
และเนื่องจาก น้อง และคนขับรถส่วนตัวของเราดื่มเบียร์ เราจึงต้องเป็นคนขับรถไปส่งน้องที่คอนโด และขับรถกลับบ้านด้วยตัวเอง เนื่องจากค่อนข้างกลัวว่าจะมีด่านตำรวจตรวจจับแอลกฮอลล์ กว่าจะถึงบ้านก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว เหนื่อยมากมาย อาบน้ำนอนทันที
และนี่คืออีกกิจกรรมประจำวันของเรา (จริงๆ อยากจะเขียนเรื่องอื่นด้วย นั่นคือ เรื่องการให้อภัยในชีวิตคู่ แต่ขอติดไว้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้แน่นอน)
ขอบคุณนะคะที่ติตตามอ่าน