Recent News

Powered by eSnips.com

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทอมแก่เลือกได้

Revealtomdy has just come back. ต่อไปเรามีจุดมุ่งหมายว่า จะเขียนให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 เรื่อง (นี่คือสิ่งที่ตั้งใจ แต่ไม่รู้ความเป็นจริงจะได้สักเท่าไหร่กัน จะพยายามแล้วกันนะคะ)



ต้องยอมรับว่า เวลานี้ หมั่นไส้คนใกล้ตัวมาก เรื่องราวในวันนี้ขอเขียน “แฉ” คนใกล้ตัวสักครั้งเถอะ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ไหมนะ? ว่าเรารำคาญ เพราะเราไม่เคยได้พูดไป (ไม่อยากจะพูดให้ใครเสียใจ) ได้แต่ปลอบ และหลอกด่าไปวันๆ (แต่ She ก็ยังไม่รู้ตัว เหอๆๆ)


งานเขียนวันนี้ มีอารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ เป็นตัวขับเคลื่อน ใครจะว่าอะไรเราไม่รู้ ไม่ได้แหกกรอบงานเขียน เพียงแต่อยากจะระบายอารมณ์ผ่านทางตัวอักษรเท่่านั้น


“ตอง” ทอมวัย 45 ปี ด้วยหน้าที่การงาน มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ฐานะค่อนข้างจะดีมากๆๆๆ เขาเลยเป็น “ทอมแก่เลือกได้” มีสาวๆมากมายมาให้เขาได้ชี้นิ้วเลือก แต่ก็ไม่รู้นะคะ ว่าลึกๆในใจสาวๆพวกนั้น ยืนนิ่งให้เขาเลือกเพราะอะไร? อาจเพราะอยากลองของแปลก? หรืออาจเพราะอยาก up ชีวิตของตัวเองให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น (ประมาณว่า ทอมแก่หลอกง่าย หรือเปล่า? เราขอ no comment) แต่ช่วงวัยไม้ใกล้ฝั่งอย่างเขานี้ ก็ยังไม่ละทิ้งตัณหา ไม่หยุดขบวนสุดท้ายไว้ที่ใครสักที ยังคงจะหาสาวๆมาควงอยู่ร่ำไป เขาใช้ชีวิตอย่างทอมเจ้าสำราญมาหลายปี โดนหลอก (แบบเต็มใจ หลักหมื่น หลักแสนบ้าง ก็เฮฮากันไป)


จนกระทั่งเขาได้มาเจอ “ปิ่น” ดี้วัย 38 สวยอย่างกระดังงาลนไฟ ซึ่งเธอเป็นแนวเดียวกับเขา นั่นคือ ชอบคบคนที่อายุน้อยกว่า ณ เวลาที่ “บุพเพอาละวาด” ให้เขาและเธอมาเจอกันนั้น เธอก็กำลังคั่วอยู่กับทอมวัย 23 คนนึง อาจเพราะด้วยความช่างเอาใจของเธอ หรือเพราะเธอไม่มีทีท่าจะสนใจเขาเหมือนสาวคนอื่นก็ไม่ทราบ หรืออาจเพราะเธอมีแฟนอยู่แล้วก็ไม่ทราบ เขาจึงรู้สึกตื่นเต้น และอยากจะเอาชนะเพื่อให้ได้เธอมาครอบครองเสียเหลือเกิน


เขาเริ่มหมกมุ่นความคิด และเวลาอยู่กับเธอ จนกระทั่งค่อยๆปล่อยสาวที่มีอยู่ใน stock หลุดออกไปทีละคนสองคน (โถ่ พี่คะ ที่พี่ต้องปล่อยหลุด เพราะพี่อายุมากขึ้นหรือเปล่า? ความจำไม่ค่อยดีใช่ป่ะ) จนสุดท้ายก็เหลือเธอเพียงคนเดียว


เรื่องราวดูเหมือนจะมาถึงจุด happy ending แต่เปล่าเลย? นี่เป็นแค่ละครฉากใหม่ ที่กำลังจะเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อเขายอมทิ้งสาวทุกคน เพื่อจะมาเริ่มต้นกับเธอ แต่เธอยังไม่ยอมเลิกกับทอมเด็กของเธอสักที ยิ่งทุ่มเทมาก ก็คาดหวังมากเป็นธรรมดา (เพราะเหตุนี้เขาจึงเริ่มต้นมีอาการประสาทอ่อนๆ) เธอแค่หลอกให้เขามารับมาส่ง ซื้อโน่นซื้อนี่ให้เธอเท่านั้น แต่ไม่เคยเปิดใจเธอให้เขาเลย (มีเพียงเขาเท่านั้นที่คิดไปเอง)


และแล้วการคร่ำครวญฉากแรกก็เริ่มขึ้น เมื่อเขารู้ความจริงว่า เธอยังไม่เลิกกับแฟนเก่า ส่วนเขาก็ได้เป็นแค่ “คนคอย support ทุกเรื่องเท่านั้น” เขาเริ่มสติแตก แต่ด้วยการรักษาฟอร์ม เคราะห์กรรมจึงต้องตกมาสู่คนรอบข้างที่ต้องมาทนฟังเรื่องราวรักไม่สมหวังของเขา (แหม อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า คุณโง่เองนี่!)


ระลอกแรกยังไม่จบ ก็มีความเสียใจโถมกระหน่ำ เข้ามาหาเขาอีกรอบ เมื่อเธอต้องการยืมเงินเขาเป็นล้าน เพื่อไปต่อยอดธุรกิจที่เธอหุ้นทำกับแฟนเก่า ไม่ต้องถามก็พอรู้ เขาก็โง่ให้อีกจนได้ โดยคาดหวังว่า เธอจะรับรัก เลิกกับแฟน และมาคบกับเขา แต่สุดท้าย อานุภาพของเงินก็ไม่สามารถบังคับความรักได้ เธอก็ยังคงคบกับแฟนเก่า นอนกับแฟนเก่า เขาขับรถมาส่งได้แค่ข้างล่างคอนโด ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก สุดท้ายก็ต้องมาระบายกับคนใกล้ตัวฟัง (แต่ไม่เคยถามเลยว่า มีใครอยากจะฟังไหม? ไม่ใช่ว่าใจร้ายใจดำหรอกนะ แต่เมื่อบอกแล้ว เตือนแล้วไม่เชื่อ โง่แบบเต็มใจ ใครจะช่วยได้อ่ะ)



อีกไม่กี่วัน ความจริงอีกเรื่องก็ถูกเปิดเผย เมื่อเขาจับได้ว่า เธอเอาเงินไปดาวน์รถให้กับทอมเด็ก (แฟนของเธอ) ไม่ได้ทำธุรกิจแต่อย่างใด เขาก็เหมือนคนโง่ในสายตาของทุกคน เพราะญาติพี่น้องของเธอรู้เรื่องหมด มีเขาคนเดียวที่โง่อยู่เพียงลำพัง (เขาไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ได้แต่เก็บความโง่ไว้เตือนใจแต่เพียงลำพัง) เก็บได้ไม่นาน คนรอบข้างก็ต้องมารับรู้ความโง่ของเขาในครั้งนี้ จากปากของเขาเอง (ไม่ต้องถามว่า คนรอบข้างจะพูดว่าอะไร นอกจาก ส่ายหัว และส่ายหัว)


ต้องยอมรับว่า เธอฉลาดที่รู้ว่า ต้องพูดอย่างไร? ทำอย่างไร? ที่จะคุมเขาให้ support และตกอยู่ในสภาพ “ธนาคาร” ของเธอต่อไป แต่ปรบมือข้างเดียวก็ไม่ดังหรอก ถ้าหากเขารู้จักรัก โดยไม่ต้องการแย่งคนของใคร ใช้หัวใจแทนเงินตรา เขาคงไม่ตกเป็น “เหยื่อ” แบบทุกวันนี้


นี่ยังไม่จบ “มหากาพย์เรื่องราวของทอมแก่คนนี้ ที่พยายามจะใช้เงินซื้อความรัก ความสุข เหมือนที่เขาเคยทำได้ในอดีต แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถทำได้ จนทำให้เขาถลำลึกเข้าไปอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์” ความรักที่เริ่มต้นด้วยการเอาชนะ ไม่มีวันมีปลายทางที่สุขสมหวังได้หรอก (เพื่อนๆว่า จริงไหมคะ?)


ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่า “เขาจะค้นพบทางสว่างในชีวิตเมื่อไร?” (และคนรอบตัวจะหมดเวรหมดกรรมเมื่อไหร่)


เราค่อนข้างจะเชื่อมั่นว่า มีเพื่อนๆ ผู้อ่านหลายๆคน ที่เคยรับฟัง และรับปรึกษาปัญหาทำนองนี้ ปัญหาโลกแตก ที่เกิดจากตัวคนๆนั้นเอง แต่สร้างความรำคาญ ให้กับคุณ ประเภท เตือนเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง แนะเท่าไหร่ไม่ยอมเชื่อ แต่เวลามีปัญหาก็ “ซมซาน” กลับมาปรึกษา ปัญหาเดิมๆ เรื่องเก่าๆ แค่เอามาเล่าใหม่ เปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยน location ก็เท่านั้นเอง


ขอพื้นที่ตรงนี้เขาระบายออกมาให้อ่านกันนะคะ ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน