เมื่อวันก่อนจัดห้อง เราได้เจอ “งานเขียน” เก่าๆของเรา ที่เคยเขียนไว้ใน “ไดอารี่ของเลสล่า” ที่เรา print ใส่กระดาษไว้กองใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันเราไม่มี file นั้นอยู่ในคอมเรา) หลังจากที่นั่งอ่านๆไป อ่านๆมา เราจึงขอนำเรื่องที่เราเขียนไว้แล้วในอดีต (หลายปี) ซึ่งเพื่อนบางคนอาจเคยอ่าน (เพราะเป็นแฟนคลับเราอย่างเหนียวแน่น) แต่ก็อาจจำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว รวมถึงคนบางคนที่ยังไม่เคยอ่าน อาจจะได้รับประโยชน์จากงานเขียนเหล่านี้ได้บ้าง
สิ่งที่เห็นได้ชัดในสังคมตอนนี้ก็คือ “คนหลายๆคนเริ่มจะมีอาการป่วยทางจิตใจ” หลายคนเริ่มจัดการและควบคุมปัญหาที่เข้ามาในชีวิตไม่ได้ จึงเลือกที่จะ “หนี” ออกจากปัญหา เพียงเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงสถานะที่ต้องเผชิญ พวกเขาไม่กล้าที่จะ “ยอมรับ” กับปัญหา เพราะพวกเขากลัวที่จะรับรู้ “ความจริง” จากคนที่พวกเขารัก ซึ่งจะนำพาพวกเขาสู่ “ความล้มเหลว” ในการมีชีวิตอยู่
ไดอารี่วันนี้เป็นเรื่องราวของดี้คนนึง ที่ผิดหวังต่อความรัก และอ่อนแอกับโชคชะตาที่เธอต้องเจอ
“หนู” ดี้วัย 19 เป็นคนกรุงเทพ แต่สอบติด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงมีความจำเป็นต้องย้ายไปอยู่หอแถวมหาวิทยาลัย แรกๆเธอกลัวว่าจะเหงาเหมือนกัน เพราะไม่มีเพื่อนเลย แต่เพื่อการศึกษาเธอจำเป็นต้องไปใช้ชีวิตอยู่โดดเดี่ยวในต่างถิ่น ด้วยบุคลิกน่ารักใสๆของเธอแบบนี้นั้น กลับกลายเป็นจุดสนใจให้กับ “แต้ว” ทอม playboy รุ่นพี่เข้าอย่างจัง เขารู้สึกอยากจะค้นเข้าไปในใจ รวมถึงร่างกายของเธอยิ่งนัก เขาตามจีบเธออยู่ไม่นาน เธอก็ใจอ่อน ยอมให้เขาทั้งกายและหัวใจ
เมื่อเขาพิชิตใจเธอได้แล้วนั้น ความตื่นเต้นเกี่ยวกับตัวเธอ สำหรับเขาก็หมดลง เขาเริ่มมองหาของเล่นชิ้นใหม่ ในขณะที่เธอนั้นรักและเทิดทูนเขาสุดหัวใจ ยิ่งวัน ยิ่งมากขึ้น (ช่างเป็นความรักที่สวนทางกันเสียนี่กระไร) พฤติกรรมเขาเริ่มเปลี่ยนไป พอเธอสังเกตุได้ เธอก็ยอมปรับปรุงตัวเองทุกอย่าง เพื่อต้องการให้เขาอยู่กับเธอต่อไป แต่ด้วยความเบื่อและไม่จริงจังของเขา ทำให้เขามองหา “เหยื่อ” รายใหม่
ไม่นานนัก เขาก็เจอเป้าหมายใหม่ และเขาก็ตีจากออกไปจากเธอ โดยทิ้งคำถามว่า “ทำไม? เธอผิดหรือบกพร่องตรงไหน?” และความเจ็บปวดให้กับเธอมากมาย เธอไม่รู้ว่า เธอทำอะไรผิด เธอไม่ดีตรงไหน คงมีเพียงทางเดียวที่จะทำให้เขากลับมาหาเธอ นั่นคือ “การเรียกร้องความสนใจ” เธอเริ่มทำร้ายร่างกายตัวเอง โดยใช้มีกรีดเป็นแผลเล็กๆ และโทรไปขอร้องให้เขากลับมา แต่เขาก็ไม่ยอมหันมาสนใจ (ขึ้นชื่อว่า ทอม playboy นะ ทอมประเภทนี้เป็นได้แต่ทอมจีบด่ะ เอาด่ะ ไม่รู้ซึ้งถึงความรับผิดชอบหรอก) จากแผลเล็กๆ ก็เริ่มด้วยการทำร้ายร่างกายตัวเองสารพัดวิธี แต่เขาก็ยังไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แถมยังด่าเธอว่า “โง่ บ้า” อีก ทำให้เธอเสียอย่างที่สุด
สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะ “ฆ่าตัวตาย” ด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำ และกำลังจะกรอกใส่ปากตายนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายเป็น “คุณแม่” เมื่อได้ยินเสียงแม่ของเธอ เธอร้องไห้ แม่เธอได้แต่ปลอบ โดยไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร คิดจะทำอะไร การได้พูดคุยกับแม่ช่วงเวลานั้น ทำให้ความคิดที่จะฆ่าตัวตายของเธอจบลง เธอขอ entrance ใหม่ เธอไม่อยากเรียนที่นี่แล้ว แม่เธอรับปาก และจะมารับเธอกลับ กรุงเทพ ในวันรุ่งขึ้น เธอเดินทางออกมาจากเชียงใหม่ โดยทิ้งประสบการณ์ความรักห่วยๆไว้ที่นั่น แล้วมาเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพ
เธอเล่าเรื่องนี้ให้เราฟัง เพื่อว่าจะได้ช่วยเตือนสติ ใครอีกหลายๆคน ที่อาจจะมีความคิดเพียงวูบหนึ่ง ที่ต้องการจะหนี โดยผ่านทาง “ความตาย”
ณ ตอนนี้เธอเข้มแข็งขึ้นมากแล้ว และจะไม่ยอมทำร้ายตัวเองเพื่อความรักอีกต่อไป
สาเหตุที่ไม่ควร “ฆ่าตัวตาย” เพื่อประชดความรักก็คือ
คุณจะรู้ได้ไงว่า “ความตาย” คือจุดจบของปัญหา การที่คุณฆ่าตัวตาย ทำให้ตัวคุณตายก่อนหมดอายุขัย วิญญาณคุณอาจจะวนเวียนอยู่ในโลกใบนี้ อย่างทรมาน คอยดูความรักครั้งใหม่ของคนที่คุณรักก็ได้ (แต่คุณเป็นเพียงแค่วิญญาณ จัดการอะไรก็ไม่ได้) คนเหล่านั้นอาจไม่เสียใจ รับรู้ และยอมรับผิดที่ทำให้คุณต้องจบชีวิตลง ตรงกันข้ามพวกเขาอาจจะหัวเราะ และเยาะเย้ยคุณก็ได้ ดังนั้น เป็นประโยชน์มากกว่า ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ เพราะคุณสามารถที่จะมองหาคนใหม่ ที่ดีกว่าเขา และเย้ยเขาได้
คุณจะรู้ได้ไงว่า เขาจะเสียใจกับการตายของคุณ เขาอาจจะดีใจก็ได้ ความผิดของเขาที่ทำไว้กับคุณจะได้ไม่ถูกขุดคุ้ยออกมาก เขาคงจะยิ้มเยาะให้กับการเสียสละที่งี่เง่าของคุณ
คุณอาจจะคิดว่า “การตาย” ของคุณทำให้คุณจบปัญหากับเขา แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ได้สร้างปัญหาให้กับคนที่รักคุณด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อนสนิท คนที่แอบรักคุณ (แต่คุณไม่เคยรู้) เพราะพวกเขาอาจจะเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต
อย่าทิ้งพวกเขาไป โดยไม่ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการรับรู้ และช่วยแก้ปัญหาของคุณ
จำเอาไว้ว่า โลกนี้มีอีกหลายพันล้านคน ที่พร้อมจะทำความรู้จัก และเรียนรู้เกี่ยวกับตัวคุณ ดังนั้น ก็อย่าเดินจากไปเพราะคนห่วยๆเพียงคนเดียว (เมื่อได้รับโอกาสเกิดมาแล้ว อย่าทำให้มันสูญเปล่า)
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน