Recent News

Powered by eSnips.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

Lesla Night

เมื่อวานเรามีโอกาสได้เข้าใน www.lesla.com เราเห็นประกาศงาน Lesla Night ที่จะมีขึ้นในต้นเดือนหน้านี้ เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแทน ทอม ดี้ เลส ทุกท่าน ที่จะได้กลับมาพบกับ “มิตรภาพ และความสนุกสนานแบบอบอุ่น” อีกครั้งนึง (สำหรับวันที่ พี่ดี๋ยังไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการ) แต่เราเคลียร์วันให้ว่างไว้เสมออยู่แล้ว หากมีการประกาศวันจัดงานที่แน่นอน เราจะแจ้งให้เพื่อนๆได้ทราบอย่างแน่นอนคะ (แล้วเจอกันที่ Lesla Night นะคะ )


ขณะที่เรากำลังนั่ง “จินตนาการ” ย้อนกลับไปยัง “อดีต” ตอนที่ไปเที่ยว “งานเลสล่า” เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราพลันนึกถึงหน้าทอมคนนึง ซึ่งเขาจะเป็นที่รู้กันในงานว่า “เขามาเพื่อเก็บเกี่ยวความเมากลับบ้าน” หากได้เห็นเขาที่งานทีไร ไม่มีหรอกที่จะเห็นเขา เดินเข้าไป “หลี” หรือ “ขอเบอร์” หญิง เขาจะนั่งดื่ม และก็ดื่ม เหล้าแก้วแล้ว แก้วเล่า ถูก “กรอก” เข้าปาก จนบางครั้งเราก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า “ไปตายอด ตายอยาก มาจากไหนเนี่ย” และทุกๆครั้งเมื่องานเลิก เขาก็จะค่อย “พยุงสังขาร” อันไร้สติ และไร้มาดทอม ค่อยๆ เดินออกไปเรียก taxi หากวันไหน เขาดื่มจนเมาแบบ “จุกอก” เขาก็จะ “สำรอก” ความเมาออกมาให้ ทอม ดี้ เลส ในงาน ได้เป็น “สักขีพยาน” ในการดื่ม เราไม่เคยนึกถึงภาพของเขาตอน “มีสติ” ออกเลย


จนกระทั่งวันนึง เรารีบไปงานเลสล่า แต่ “หัววัน “ เวลาประมาณ 20.00 ช่วงนั้นพี่ดี๋กำลังจะแจกตุ๊กตา และแผ่นหนัง L word (เราคาดหวังว่าจะ “ได้อะไรติดไม้ติดมือ” กลับมาเป็นที่ระลึกเสียหน่อย) และวันนั้น เราก็ได้เจอเขา (ในสภาพปกติ) เขาเป็นทอมวัย 27 ที่หน้าตาใสๆ มีรอยยิ้มที่แสนเศร้า และมีดวงตาที่เลื่อนลอยเล็กๆ แต่ก็เป็นทอม “มีมาด” คนนึง ก่อนที่เขาจะ “สั่งเหล้าชุดใหญ่” เราจึงไม่รอช้า เดินเข้าไปทำความรู้จัก (ต้องออกตัวก่อนว่า ปกติเราไม่ค่อยเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่? แต่ความกล้าในครั้งนี้ อาจด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า เขาจะใช้ปากในการสนทนาได้ดีเหมือนดื่มเหล้าไหม?)


เราเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเอง และก็คุยเรื่องใกล้ตัวไปเรื่อยๆ เขาก็ตอบกลับอย่างดี เขาเล่าว่า เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนึง เขาจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีฐานะ เขารู้ตัว และยอมรับว่าตัวเองเป็นทอมตอนเขาเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ในงานรับน้องเขาได้พบกับ “แฟน” (คนแรก และคนปัจจุบัน) ของเขา และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่ง “วิบากกรรม” ในชีวิตรักของเขา


เธอเป็นดาวคณะที่สวยมาก เธอเรียนเก่ง และเป็นคนที่ไม่ค่อยคบหากับใครเท่าไหร่ เขาจึงเปรียบเสมือนโลกทั้งใบของเธอ ซึ่งตอนแรก เขาคิดไปเองว่า “เธอคือทุกอย่าง ทั้งหมด ในชีวิตรักที่เขาต้องการ” แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า “ความรักที่มากเกินไป มันก็ก่อให้เกิดทุกข์” และ “ทุกข์” นั้นก็เริ่มต้นจาก “ตัวเธอ” เมื่อเธอ “หึงและหวง” เขามาก เรียกได้ว่า เขาไม่สามารถมีสังคม มีเพื่อนไม่ว่าจะ ชาย หญิง ทอม หรือดี้ได้เลย และทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เธอจะลงไม้ลงมือ ทั้งตบ ตั้งปาของใส่หัวให้หัวแตก ทำให้เขาต้องเจ็บไปทั้งตัวและใจ หากเขาต้องการให้เธอหายโกรธ ต้องคลานเข้าไป “กราบเท้า” ของเธอ แล้วเธอก็จะให้อภัย แต่เธอก็ไม่ยอมลืมเรื่องเก่าๆ เพราะเมื่อไหร่ เธอนึกขึ้นได้ เธอก็จะพูด ย้อนด่า และใช้กำลังกับเรื่องเก่าแต่เล่าใหม่ อยู่ร่ำไป (ตามแต่สภาวะฮอร์โมน)


ประโยคเด็ดของเธอนั่นคือ “เลิกกันเลยไหม? อย่างมึงจะไปไหนรอด สุดท้ายก็ต้องมายอมกราบตีน ง้อกูอยู่ดี” หลายครั้งที่เขาต้องการที่จะ “เลิกรา” จริงๆ เพราะเนื่องจาก ครอบครัวเขาเริ่มรับรู้เรื่องของเธอ และรู้สึกไม่ปลื้มมากๆ ถึงขนาดที่แม่ของเขา ร้องไห้ ขอร้องให้เขาเลิกกับเธอ แต่เมื่อเขาตั้งใจเลิกจริงๆ เธอก็ “ขู่” จะฆ่าตัวตาย จะเอาคลิปที่เคยถ่ายตอนเขาและเธอแก้ผ้ามีอะไรกัน ไปเผยแพร่ ทำให้เขาต้องทนเก็บเรื่องราวต่างๆ และทนอยู่มาจนถึงทุกวันนี้


และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขา “เก็บกด” มาตลอด เราฟังแล้วก็ได้แต่ “ขอบคุณพระเจ้าในใจ ที่เราไม่ได้เอาหัวใจไปเสี่ยงกับคนจิตไม่ปกติเช่นเธอ” และ ช่วงนี้ เธอต้องไปดูแลคุณพ่อที่ป่วยที่ต่างจังหวัดทุกเสาร์ และอาทิตย์ จึงทำให้เขามีโอกาสเป็น “อิสระ” และ Lesla Night นี้แหละ ที่เป็น “สถานที่” ที่ทำให้เขารู้สึก “ปลอดภัย และสนุก” ในแบบของเขาเพียงลำพัง เพราะเขาไม่อยากจะรู้จัก หรือนำตัวไป “พัวพัน” กับความรักรูปแบบอื่นๆอีก


และนี่คือเรื่องราวของ “ทอมอีกคนนึงในสังคม” ที่คืนนั้น เขาก็กลับไปอยู่ในสภาพเดิม คือ “เมาเพื่อให้ลืมความรักที่มีแต่ความทุกข์​ลืมความจริงของชีวิตที่ละเอียดอ่อน และ “เป็นปม” จนยากแก่การ “คลาย” ลืมทุกอย่าง” เพราะช่วงเวลาที่เมานี้ เขามีโอกาสที่จะเป็นตัวของตัวเอง และ “ปลดปล่อยสมอง” ออกจาก “เครื่องพันธนาการ” ที่โหดร้ายในชีวิต


นี่ก็ผ่านมานานแล้ว พอเราย้อนคิดถึงเขา เราก็ใคร่อยากจะรู้ว่า “ตอนนี้เขาเป็นเช่นไร? ยังทุกข์อยู่หรือเปล่า?”


และนี่คือ “บันทึก” แห่งความประทับใจอีกหน้า ที่เรามีต่อการไป Lesla Night เพราะหลังจากที่เราได้คุยกับเขา เรามีสติมากขึ้นในการใช้ชีวิต และเลือกที่จะคบใครสักคน เพราะ “ความรัก” และ “การตัดสินใจ” เลือกแฟนสักคน ที่ใครๆคิดว่า เป็นเรื่อง ชิวๆ ง่ายๆ นั้น สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้จริงๆ


ที่ Lesla Night ไม่เพียงแต่คุณจะได้เพื่อนใหม่ หรือมาสนุกในคืนวันเสาร์เท่านั้น คุณจะ “ค้นพบ” สิ่งดีๆ และประสบการณ์ชีวิตมากมายที่นี่ แล้วเจอกันนะคะ


ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน