เมื่อคืนวานนี้ ชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ได้เฉลิมฉลอง “ปัสกา easter” (วันกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซู) ถือเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่วันนึงในปีของพระศาสนจักร
Happy Easter นะคะทุกคน
เพื่อนๆเคยสังเกตุตัวคุณเองไหมว่า?
คำพูดแรกที่คุณจะพูดกับตัวเองตอนตื่นนอนในตอนเช้าคืออะไร?
บางคนบอกกับตัวเองว่า “วันนี้วันจันทร์อีกแล้ว ไม่อยากไปทำงานเลย”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “ขออีก 5 นาที”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “โอ๊ย ไม่อยากลุกเลย”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “วันนี้จะเอาอะไรกิน จะหาเงินอย่างไร?”
แล้วแต่ว่าต่างคนจะพูดกับตัวเองว่าอย่างไร?
สำหรับเรานั้น เรามักจะยิ้ม และพูดกับตัวเองว่า
“วันนี้คือจุดเริ่มต้นของวันใหม่ ต้องมีสิ่งดีๆรอเราอยู่แน่นอน”
แล้วเพื่อนๆล่ะคะ พูดกับตัวเองว่าอะไร?
พอคิดถึงคำพูดแรกตอนตื่นนอนแล้ว เราก็อยากจะย้อนไปว่า
“ก่อนนอน คุณเคยคิดกันไหมคะว่า คุณอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกในเช้าวันต่อไป”
สำหรับบางคนที่มีความรอบคอบ อาจอาจเตรียมพินัยกรรม เตรียมวางแผนพิธีงานศพของตัวเอง วางแผนทุกอย่างไว้อย่างเบ็ดเสร็จ
สำหรับบางคนที่ไม่เคยคิดถึง อาจจะใช้ชีวิตไปวัน โดยไม่เคยคิดถึง “ความตาย” (ทั้งๆที่ความตาย เหมือนโจรปล้นบ้าน ที่จะมาในเวลาที่เราไม่รู้ล่วงหน้า และคาดไม่ถึง)
สำหรับเรา ก่อนเราเข้านอน เราจะ “ทิ้งทุกอย่าง” ความรู้สึกในเชิงลบทั้งหมด เหตุผลง่ายๆก็คือ เราไม่อยากจะ “ตายแบบฉุกเฉิน” โดยต้องมีความกังวล หรือ บ่วงติดอยู่ในหัวใจ (เดี๋ยวจะเหมือน จ้าวศรีเกษ ในเรื่อง สาปภูษา)
ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองค่อนข้างวุ่นวาย เพื่อนๆคนไหนที่ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยววันหยุดที่ต่างจังหวัด อยู่ในกรุงเทพเหมือนกับเรา ก็คงจะ “เซ็ง” มากมาย เมื่อวานเราไปทานข้าวที่ Central World และเดินทางออกมาก่อนที่เขาจะประกาศปิดห้างเพียงไม่ถึง 30 นาที (ขอบคุณพระเจ้า ที่ตัดสินใจออกมาก่อน)
แต่วันนี้สิ เราก็ต้องมานั่ง “อธิษฐาน” กันต่อไปว่า มิสซาแห่แม่พระในค่ำคืนนี้ เราจะสามารถไปเข้าร่วมได้ไหม เนื่องจากมีรถแก๊สมาขวางทางไว้
ยังไงก็ตาม เราขอฝากวันๆนี้ ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ เราเชื่อเหลือเกิดว่า “พระเจ้า ต้องคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับมนุษย์ทุกคนอย่างแน่นอน”
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
Happy Easter นะคะทุกคน
เพื่อนๆเคยสังเกตุตัวคุณเองไหมว่า?
คำพูดแรกที่คุณจะพูดกับตัวเองตอนตื่นนอนในตอนเช้าคืออะไร?
บางคนบอกกับตัวเองว่า “วันนี้วันจันทร์อีกแล้ว ไม่อยากไปทำงานเลย”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “ขออีก 5 นาที”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “โอ๊ย ไม่อยากลุกเลย”
บางคนบอกกับตัวเองว่า “วันนี้จะเอาอะไรกิน จะหาเงินอย่างไร?”
แล้วแต่ว่าต่างคนจะพูดกับตัวเองว่าอย่างไร?
สำหรับเรานั้น เรามักจะยิ้ม และพูดกับตัวเองว่า
“วันนี้คือจุดเริ่มต้นของวันใหม่ ต้องมีสิ่งดีๆรอเราอยู่แน่นอน”
แล้วเพื่อนๆล่ะคะ พูดกับตัวเองว่าอะไร?
พอคิดถึงคำพูดแรกตอนตื่นนอนแล้ว เราก็อยากจะย้อนไปว่า
“ก่อนนอน คุณเคยคิดกันไหมคะว่า คุณอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกในเช้าวันต่อไป”
สำหรับบางคนที่มีความรอบคอบ อาจอาจเตรียมพินัยกรรม เตรียมวางแผนพิธีงานศพของตัวเอง วางแผนทุกอย่างไว้อย่างเบ็ดเสร็จ
สำหรับบางคนที่ไม่เคยคิดถึง อาจจะใช้ชีวิตไปวัน โดยไม่เคยคิดถึง “ความตาย” (ทั้งๆที่ความตาย เหมือนโจรปล้นบ้าน ที่จะมาในเวลาที่เราไม่รู้ล่วงหน้า และคาดไม่ถึง)
สำหรับเรา ก่อนเราเข้านอน เราจะ “ทิ้งทุกอย่าง” ความรู้สึกในเชิงลบทั้งหมด เหตุผลง่ายๆก็คือ เราไม่อยากจะ “ตายแบบฉุกเฉิน” โดยต้องมีความกังวล หรือ บ่วงติดอยู่ในหัวใจ (เดี๋ยวจะเหมือน จ้าวศรีเกษ ในเรื่อง สาปภูษา)
ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองค่อนข้างวุ่นวาย เพื่อนๆคนไหนที่ไม่ได้ออกไปท่องเที่ยววันหยุดที่ต่างจังหวัด อยู่ในกรุงเทพเหมือนกับเรา ก็คงจะ “เซ็ง” มากมาย เมื่อวานเราไปทานข้าวที่ Central World และเดินทางออกมาก่อนที่เขาจะประกาศปิดห้างเพียงไม่ถึง 30 นาที (ขอบคุณพระเจ้า ที่ตัดสินใจออกมาก่อน)
แต่วันนี้สิ เราก็ต้องมานั่ง “อธิษฐาน” กันต่อไปว่า มิสซาแห่แม่พระในค่ำคืนนี้ เราจะสามารถไปเข้าร่วมได้ไหม เนื่องจากมีรถแก๊สมาขวางทางไว้
ยังไงก็ตาม เราขอฝากวันๆนี้ ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ เราเชื่อเหลือเกิดว่า “พระเจ้า ต้องคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับมนุษย์ทุกคนอย่างแน่นอน”
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน