Recent News

Powered by eSnips.com

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฟั่นเฟือน

เพลง ฟั่นเฟือน


จากครั้งเราเคยมีกัน อยู่ๆ ก็พลัน มาทิ้งกันไป 

เจ็บช้ำเธอทำกันลงได้ หักอกห้ามใจไม่เคยลืมลง 


เจ็บนี้มันแรงเกินตัว เรื่องราวในหัว มันตามมันเตือน 

เจ็บพร้อมจะยอมฟั่นเฟือน สติเลอะเลือนถ้าลืมได้ลง 


ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร 

ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้ 

ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้ 

ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยให้ชีวิตใครไป 


เจ็บลึกมันจมลงใจ สลบไสลไปเลยคงดี 

ให้ฟื้นมาเป็น เป็นคนที่ไม่มีเรื่องราวไม่มีหัวใจ 


ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร 

ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้ 

ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้ 

ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยให้ชีวิตใครไป 


หลายๆคนที่เคยฟังเพลงนี้ และหากกำลังฟังขณะที่ "อกหัก" อยู่แล้วด้วย ก็คงไม่ต้องบอกนะคะว่า "กระแทก" หัวใจได้ขนาดไหน เราสังเกตุเห็นหลายต่อหลายคน ที่มีอยู่ในภวังค์ที่อกหัก ส่วนใหญ่จิตใจจะหยุดทำงาน พลอยทำให้ร่างกายหยุดนิ่ง เหม่อลอย เฝ้าแต่ตอบคำถามภายในหัวใจ คิดหาเหตุผล วนเวียน เวียนวน อยู่นั่นแหละ (หาทางออกไม่เจอ) และช่วงเวลา "อกหัก" นี่แหละ ที่ใครหลายคน อยากจะเป็นบ้า อยากจะไม่รับรู้อะไร อยากจะความจำเสื่อมชั่วคราว ทำทุกทาง ไม่ว่าจะดื่มเพื่อลืมเธอ เที่ยวเพื่อที่จะไม่คิดถึง หรือหาคนมาแทนที่เพื่อจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี๋ยว แต่ยิ่งพยายาม ยิ่งพยายาม และพยายามเท่าไหร่ คำตอบ หรือ หนทางที่สรรหามาบรรเทานั้น ก็ดูเหมือน ไม่ช่วยอะไร นอกจากจะยิ่งย้ำ ตอกย้ำ และเกิด "ข้อเปรียบเทียบ" อยู่เสมอ


เรายังจำได้ว่า เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราเคยเสียใจมากๆ เนื่องจากคุณยายของเราเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ณ ตอนนั้น เราหาทางออกไม่ได้ เพราะดื่มไม่เป็น ไม่เที่ยว วิธีเดียวตอนนั้นที่เราคิดได้ก็คือ ต้องระบาย และปลดปล่อยความทุกข์ในใจออกไป เราเดินไป เดินมาในห้องนอน แต่ดูเหมือนไม่ช่วยอะไร นอกจากตอกย้ำ และคิดไปคิดมาอยู่แต่เรื่องเดิมๆ ตอนนั้นเวลา 8 โมงเช้า และเราต้องไปฝังศพคุณยายเราตอนบ่าย หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน เราจึงได้ตัดสินใจ ที่จะหากิจกรรมทำให้จิตเราอยู่นิ่งที่สุด เพื่อที่จะผ่านสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นให้ได้ สุดท้าย เราจึงคว้ากระเป๋า ออกไปว่ายน้ำ ที่โรงแรมแถวๆบ้าน 


เมื่อถึงสระน้ำ เรากระโดดลงน้ำ และว่ายไป กลับ ในสระ เกือบ 2 ชั่วโมง ที่เราว่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย (ถ้าเป็นตอนนี้ คงตะคริวกินตายไปแล้ว) และการว่ายน้ำนี่แหละ ที่ทำให้เรานิ่งขึ้น เพราะการเคลื่อนไหวภายในน้ำ ต้องอาศัยจิตใจ เพื่อที่จะควบคุมร่างกาย และ "สติ" ก็ถูกกระตุ้นให้มาใช้อีกครั้ง 


และหลังจากครั้้งนั้น เมื่อเรารู้สึกเสียใจ หรือ ไม่สบายใจ เราก็เลือกที่จะไปว่ายน้ำ และล่าสุด ที่น้องนีโอ (น้องหมา) ได้เสียชีวิตไปนั้น เราก็ไปว่ายน้ำ เพื่อที่จะ "ตั้งสติ" และ "หยุดยั้ง" ความเสียใจ ที่ไหลหลั่งอยู่ภายใน และไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้ 


นี่คือกิจกรรมเล็กๆ ที่เราเลือกที่จะใช้ เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจของเรา (หากเพื่อนๆคนไหนจะนำไปใช้บ้าง ก็น่าสนใจนะคะ)


พรุ่งนี้เราก็ต้องเดินทางแล้ว หากมีโอกาส เวลา และคิวตอนไปที่โน่น ไม่แน่นเอียดจนเกินไป เราจะแวะมาเขียนไดอารี่ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ


ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน