Recent News

Powered by eSnips.com

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

At Phuket

เมื่อวานตั้งใจจะมาถ่ายทอดกิจกรรม ณ ภูเก็ต ต่อภาค 2 แต่สืบเนื่องจากเราไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ มาต่อกันเลยดีกว่านะคะ


Day 2 at Phuket


ตื่นมาแต่เช้า ต่อมซ่า ก็เริ่มจะทำงาน เราจึงไปตลาดทานขนมจีนภูเก็ตเป็นมื้อแรก (อร่อยดีเหมือนกัน) กลับมาที่พัก อยู่ได้ไม่ถึง 20 นาที เราก็ออกไปทัวร์อีกรอบ ครั้งนี้ไปไกลกว่าเดิม แวะทานติ่มซำ เล็กน้อย รสชาติก็งั้นๆ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ ตอนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ๆ ฝนก็เทลงมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เรารีบแวะข้างทาง ใส่เสื้อกันฝน ใส่เสร็จขี่ไปได้ไม่ถึง 50 เมตร ฝนหยุดตกเฉยเลย งงมาก เราจอดอีกรอบเพื่อที่จะเก็บเสื้อกันฝน แต่พอเราขี่ไปได้อีกเกือบ 200 เมตร ก็เทลงมาอีกแล้ว (นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฟ้งฝนที่ภูเก็ตนี่ หรือนี่เป็นเรื่องปกติของที่นี่??) สุดท้ายเราจึงไม่ใส่เสื้อกันฝนแล้ว (แต่ลึกๆ ก็หวั่นๆเหมือนกัน เพราะไปเกาะช้างครั้งล่าสุด ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตากฝนแบบนี้แหละ สุดท้าย ไข้หวัดก็รับประทานเราไปหลายอาทิตย์) ขากลับเราแวะซื้อ ข้าวแกงเมืองนคร (ที่เขาว่า อร่อยนักอร่อยหนา) มาทานด้วยหนึ่งถุง


กลับมาถึงที่พัก เราร้อนมาก จึงลงไปนอนแช่น้ำในอ่างให้สบายอุราเสียหน่อย (แปลกไหม? ทุกครั้งที่ไม่สบายใจ แล้วลงไปแช่น้ำ ในอ่าง หรือว่ายน้ำ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และบรรเทา เหมือนกับว่า ร่างกายย้อนกลับไปสู่ความสมดุลอีกครั้ง) อาบน้ำตัวหอมๆแล้ว ต่อมซนเริ่มกระตุกอีกครั้ง คราวนี้เราขี่รถไป airport แล้วกลับมาที่ลากูน่า และไปป่าตอง (ทางคดเคี้ยวมาก ขาสั่นเล็กน้อย) แล้วก็กลับมาที่พักอีก ขี่ไปตั้งแต่บ่ายโมงถึงสี่โมงครึ่ง (3 ชม. ครึ่งบนรถมอเตอร์ไซค์) เข้าใจอาการก้นเป็นตะคริวเลย รวมระยะทางร่วมร้อยกิโลเมตรได้ (ขี่ไป และกลับ) เหมือนข้ามจังหวัดเลย


กลับมาถึงที่พัก ท้องเริ่มหิว เราจึงไปเดินตลาดนัด ตลาดนัดที่ี่นี่ของขายเยอะ ทั้งของกินและของใช้ เดินสนุกมากเลย และจุดหมายสุดท้ายของเรานั่นคือ ขี่เข้าไปในเมือง (ซึ่งห่างออกไป 20 กว่า กิโล) เพื่อไปห้างดังของภูเก็ต (ไม่ใช่ robinson, central, big c or lotus) แต่นั่นคือ Super Cheap ที่นี่มีลักษณะคล้าย แม็คโคร ต่างกันตรงที่ไม่ติดแอร์ และมีตลาดนัดอาหารเล็กๆหน้าห้อง ของที่นี่มีทุกอย่าง ราคาก็ไม่แพงมาก เดินอย่างเพลิดเพลินเลยเรา กลับมาถึงที่พักก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว ขอนอนก่อนดีกว่าเนอะ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ กทม.แล้ว


Day 3 at Phuket


เราตื่นมาแต่เช้าอีกแล้ว เพื่อจะไปทานอาหารเช้าที่ตลาด และมื้อแรกของวันนี้ ก็ยังคงเป็น ขนมจีนภูเก็ตเหมือนเดิม เป็นการส่งท้ายวันสุดท้ายที่นี่ เรากำหนดไปขึ้นเครื่องช่วงบ่าย แต่ปรากฏว่า เครื่อง delay เนื่องจากมีการแสดง thunder bird ที่ดอนเมือง กว่าเราจะได้ออกมาจากภูเก็ตก็ 15.00 กว่าจะมาถึงกทม. ก็ 16.00 กว่าๆแล้ว เรารีบสุดฤทธิ์ เนื่องจากมีนัดตอน 17.30 และต้องอ่านบทอ่านที่โบสถ์ รวมถึงซ้อมเพลง เรียกได้ว่า คิวแน่นเอียด เรามาถึงดอนเมือง ปรากฏว่า คนมากมายมหาศาล เนื่องจากการแสดงโชว์เพิ่งจบ รถติดแน่นมาก มีรถชน และมีขบวนเสด็จอีก ที่สำคัญฝนตกแบบเทกระหน่ำ (ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด) สุดท้ายแผนที่วางไว้ต้องเป็นอันต้อง "เปลี่ยนแปลง" หมด เนื่องจาก เราติดอยู่ที่ดอนเมือง จากที่ต้องกลับไปบ้านก่อนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่สุดท้ายต้องเดินทางตรงไปที่โบสถ์เลย ทั้งๆที่ตัวเปียกปอน กว่าจะถึงโบสถ์ก็หกโมงกว่าแล้ว เราต้องดำเนินกิจกรรมต่อไปจนถึงห้าทุ่ม ถึงจะได้กลับถึงบ้านอาบน้ำ เรียกได้ว่า "เป็นวันที่โหดที่สุด" แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาจนได้


และนี่คือเรื่องราวเล็กๆของเรา เรารู้สึกปวดหัว เราขอตัวไปนอนพักก่อนนะคะ


ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน