ช่วงนี้นั่งเขียนงานถึงเช้าเกือบทุกวัน ย้อนไปเมื่อ 3 คืนก่อน เสียงโทรศัพท์มือถือเราดังตั้งแต่ตอนตี 5 น้อง “พิม” โทรมา (เราเพิ่งล้มตัวลงนอนก็ตี 4 แล้ว ใครนะ ช่างไปดลใจให้คุณเธอกดโทรฯมาหาเรา) ตอนแรกเราก็ละเมอคุยว่า “เพิ่งวางหูได้แปปเดียว โทรมาทำไมคะ???.......” แต่ต่อม conscious ก็ต้องกระตุกเมื่อเราได้ยินเสียงผู้หญิง ร้องไห้พรางพูดไปว่า “พี่คะหนูขอโทษที่กวนเวลา แต่หนูมีเรื่องจะปรึกษาจริงๆ แล้วพี่ก็เป็นคนเดียวที่ตื่นเช้าทุกวัน (แต่ไม่ใช่วันนี้นะคะคุณน้อง)” เราตอบว่า “ไหนๆก็ปลุกพี่แล้ว รบกวนน้องช่วยเล่าเรื่องราวให้กระชับ สั้นๆ และได้ใจความด้วยนะคะ (เพราะถ้าเรายืดยาวไป พี่อาจจะหลับได้อีกหลายตื่น)” พิมได้เล่าเรื่องราวต่างๆ เราสรุปได้ใจความ เท่านี้นะคะ (แต่แค่นี้เราก็ว่ามากเกินพอแล้ว สำหรับความไม่แน่นอน และมั่นคงทางด้านจิตใจของทอมคนนึง)
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนๆในกลุ่มเราตัดสินใจไปงานเลสล่ากระทันหัน ทำให้ไม่ได้โทรจองโต๊ะ ต้องไปอาศัยยืนดักตอน 3 ทุ่ม เผื่อว่าจะมีใครสละโต๊ะ เป็นอันรู้กันในกลุ่มว่าพวกเราชอบโต๊ะหน้าๆเวที เพราะจะได้เห็นการแสดงได้สะดวก และเผื่อฟลุค ได้ตุ๊กตาที่พี่ดี๋โยนมาด้วย (พี่ดี๋คะ ระยะหลังๆนี่ กลุ่มหนูขาด collection ตุ๊กตาพี่ไปนะคะ) วันนั้นเราได้รู้จักพิม (ดี้) ใจดีที่ให้ share โต๊ะของเธอกับกลุ่มเรา เธอจองโต๊ะไว้ 6 ที่ แต่เพื่อนๆของเธอที่นัดไว้ไม่มา ทำให้เธอนั่งคนเดียว (มีกลุ่มพี่ไป น้องพิมไม่เหงาแล้วแน่) วันนั้นเพื่อนเราไปกันเป็นคู่ๆทำให้เราออกจะเหงา ประกอบกับเราไม่ได้ทานข้าวเย็นมา เมื่อท้องเริ่มหิว เราเลยชวนเธอเดินไป 7 eleven กันสองคน พอเดินออกไปจากร้าน น้ำตาเธอก็ไหล พรางบอกว่า “พี่คะ หนูเจ็บปวดหรือเกิน” (เฮ้ย พี่ยังไม่ได้ทำอะไรหนูเลยนะ พี่เข้าใจว่าพี่มีแรงดึงดูดดี้มาก แต่พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นกับหนูนะ) เราเลยถามน้องว่า “มีอะไรเล่าให้พี่ฟังก็ได้นะ พี่รับฟังได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องนะ” พิมเล่าว่า “วันนี้ที่เธอตัดสินใจมางานก็เพราะว่าเธอได้ chat msn กับทอมคนหนึ่ง (เขาและเธอยังไม่เคยได้เห็นหน้าซึ่งกันและกัน จะมาเปิดเผยหน้ากันในงานเลสล่า) “Blind Date” ว่างั้นเถอะน้อง เธอว่า “เขาอาจจะมาแล้ว เห็นเธอแล้วรับไม่ได้ คงหนีกลับบ้านไม่เข้ามาทักพิมแล้ว เพราะเขาคงรับที่พิมหุ่นไม่ดี ไม่น่ารัก เหมือนสาวๆคนอื่นๆ เธอบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดตัวในงานเลสล่า ปกติเธอ chat แล้วเธอจะส่งรูปไป ทอมส่วนใหญ่จะเลิกติดต่อกับเธอ เธอเข้าใจดีว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวย แค่เป็นผู้หญิงที่รอความเมตตา จากบรรดาทอมๆทั้งหลายที่ไม่ได้มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก” (มันจะมีทอมแบบนั้นหรือเปล่า พี่ว่าคงยากนะน้อง) เอาล่ะ แต่คืนนั้นอย่างน้อยเราและเพื่อนๆของเราก็ทำให้น้องพิมมีรอยยิ้มได้
ร่ายยาวไปหน่อย มาเข้าเรื่องที่เธอโทรมาระบายกับเราเมื่อเช้าดีกว่า เธอมีปมอยู่ในใจเกี่ยวกับความไม่น่ารักของเธอ (พี่ก็ไม่เห็นว่าหนูจะหน้าเกลียดตรงไหน แค่อ้วนๆ เตี้ยไปนิด ผิวคล้ำไปหน่อยก็เท่านั้น แต่ในดวงตาหนูแฝงด้วยความจริงใจที่เต็มเปี่ยมนะ พี่ว่า) เมื่อเช้าเธอเล่าว่า “ตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอเธอในงานเลสล่า เธอก็เข็ดทอมไปนาน จนกระทั่งเธอได้มีโอกาสคุยกับทอมคนหนึ่ง “พี่ต่าย” (ถ้าเราฟังชื่อไม่ผิดนะ) ทาง msn เขาพร่ำบอกเธอเสมอว่า “เขามองหาใครสักคนที่จะมาดูแลกันและกันให้นานที่สุด เขาไม่ชอบผู้หญิงสวย เพราะผู้หญิงสวยมักจะทำร้ายเขา (เขาผ่านการอกหักมามาก ว่างั้นเถอะ) เขายอมรับได้ที่เธอเป็นเธอ ไม่ว่าเธอจะหน้าตาหรือรูปร่างเป็นอย่างไร (มีทอมประเสริฐยังงี้ด้วยเรอะ คงอาจจะมีมั้งหรือว่าไม่???)” เธอจึงเชื่อคำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ด้วยความเชื่อในคำพูดเขา เธอจึงดำเนินความสัมพันธ์กันลึกลงไป จนกระทั่ง เขาขอนัดเจอเธอ ก่อนนัดเจอ เธอได้บอกให้รู้ว่า “เธอไม่น่ารัก ไม่สวยนะ” เขารับฟังและไม่ได้ว่าอะไร (เราขอออกความคิดเห็นว่า เขาคงจะคาดไม่ถึง หรือไม่ก็อ่อนแอเกินไป ที่จะยอมรับความจริงในใจว่าตัวเองก็หลงในปัจจัยภายนอกมากกว่าจิตใจ ประเภท “ทอมสร้างภาพ”) เมื่อเขาได้เจอเธอ เขาก็เริ่มแสดงอาการรับไม่ได้ ออกท่าทางรังเกียจให้เห็น (อย่างทุเรศที่สุด) ก่อนกลับเขาได้พูดกับเธอว่า “เราคงคบกันไม่ได้ (อ้าว ไหงงั้นล่ะ) เขาไม่เคยมีแฟนที่ดูไม่ดีขนาดนี้ เขาอยากเป็นพี่เป็นน้องกับเธอมากกว่า” เธอเสียใจมาก (อีกแล้วเรอะ) ไม่คิดว่าการที่เธอจะไว้ใจทอมอีกครั้ง จะทำให้เธอทรมานแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก “ทำไมนะ ถ้าเขารับไม่ได้ ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่ตอนคุยกัน มาทำเป็นจิตใจดี สร้างภาพว่า รับได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ทำไม???”
ในที่สุด เขาก็ได้ฝากคำถามว่า “ทำไม??????” ลงในสมองของเธออีกครั้ง สำหรับความรักครั้งนี้เธอก็คงต้องเจ็บไปอีก (เจ็บซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเดิมแหละน้อง ไม่ใช่ว่าหนูไม่ดีนะ แต่เพราะว่าทอมพวกนั้นตาไม่ถึงต่างหาก รอพี่นะ เมื่อพี่อายุ 30 แล้วพี่ไม่มีใคร ไม่มีทอมที่ไหนเอาพี่ พี่จะตัดสินใจเปลี่ยนเป็นทอมซะเองเลย แล้วคบกับหนู พี่คิดว่าด้วยมั่นคงทางจิตใจและความจริงใจของพี่ คงจะทำให้หัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักของหนู มีรอยยิ้มขึ้นได้บ้าง) ระหว่างรอพี่ ก็ค้นหาต่อไปนะน้อง เผื่อจะเจอคนที่ใช่ในสักวัน ต้องมีสิ อย่างน้อยก็สักคนบนโลกใบนี้ ที่จะไม่มองเพียงภายนอก
เรื่องราวในวันนี้อาจยาวไปสักนิด แต่พวกเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีทอมบางคนหรือดี้บางคนที่ไม่รู้จักตัวเอง แล้วอาจเผลอใจทำร้ายใครอีกหลายๆคน ด้วยความคาดไม่ถึงของพวกเขา เราเชื่อว่า มีทั้งทอมและดี้อีกหลายคนที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับพิม ไม่ใช่ว่าพวกคุณไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่เด่นหรอกนะคะ แต่เพราะคนที่คนมองพวกคุณ ไม่ได้ใช้สมองในการมองพวกคุณต่างหาก ใช้แค่สายตา (ซึ่งหลายครั้งมันก็แสดงภาพลวงตา)
“การค้นหาและการรอคอย” อาจเรียกได้ว่า เป็นกิจวัตรของพวกคุณ แต่อย่าเพิ่งท้อนะคะ เพราะต้องมีคนที่ใช่รอพวกคุณอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่งของเวลา มีกำลังใจและก้าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม แล้วคุณจะพบคุณค่าในตัวของคุณเอง ทำให้มันฉายแสงออกมา ด้วยการรักตัวเอง อย่าทรมานตัวเองด้วยคำว่าผิดหวังและเศร้าใจเลย (จำไว้นะ มีแต่พวกคนอ่อนแอเท่านั้นที่ไม่เห็นค่าของพวกคุณ อาจเพราะเขาไม่คู่ควร) ยิ้มไว้นะ แล้วความรักจะมาเคาะประตูบ้านคุณในสักวัน เคลียร์ตัวเองให้พร้อม ความหวังยังมีเสมอสำหรับคนที่ตื่นรอ
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่าน
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนๆในกลุ่มเราตัดสินใจไปงานเลสล่ากระทันหัน ทำให้ไม่ได้โทรจองโต๊ะ ต้องไปอาศัยยืนดักตอน 3 ทุ่ม เผื่อว่าจะมีใครสละโต๊ะ เป็นอันรู้กันในกลุ่มว่าพวกเราชอบโต๊ะหน้าๆเวที เพราะจะได้เห็นการแสดงได้สะดวก และเผื่อฟลุค ได้ตุ๊กตาที่พี่ดี๋โยนมาด้วย (พี่ดี๋คะ ระยะหลังๆนี่ กลุ่มหนูขาด collection ตุ๊กตาพี่ไปนะคะ) วันนั้นเราได้รู้จักพิม (ดี้) ใจดีที่ให้ share โต๊ะของเธอกับกลุ่มเรา เธอจองโต๊ะไว้ 6 ที่ แต่เพื่อนๆของเธอที่นัดไว้ไม่มา ทำให้เธอนั่งคนเดียว (มีกลุ่มพี่ไป น้องพิมไม่เหงาแล้วแน่) วันนั้นเพื่อนเราไปกันเป็นคู่ๆทำให้เราออกจะเหงา ประกอบกับเราไม่ได้ทานข้าวเย็นมา เมื่อท้องเริ่มหิว เราเลยชวนเธอเดินไป 7 eleven กันสองคน พอเดินออกไปจากร้าน น้ำตาเธอก็ไหล พรางบอกว่า “พี่คะ หนูเจ็บปวดหรือเกิน” (เฮ้ย พี่ยังไม่ได้ทำอะไรหนูเลยนะ พี่เข้าใจว่าพี่มีแรงดึงดูดดี้มาก แต่พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นกับหนูนะ) เราเลยถามน้องว่า “มีอะไรเล่าให้พี่ฟังก็ได้นะ พี่รับฟังได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องนะ” พิมเล่าว่า “วันนี้ที่เธอตัดสินใจมางานก็เพราะว่าเธอได้ chat msn กับทอมคนหนึ่ง (เขาและเธอยังไม่เคยได้เห็นหน้าซึ่งกันและกัน จะมาเปิดเผยหน้ากันในงานเลสล่า) “Blind Date” ว่างั้นเถอะน้อง เธอว่า “เขาอาจจะมาแล้ว เห็นเธอแล้วรับไม่ได้ คงหนีกลับบ้านไม่เข้ามาทักพิมแล้ว เพราะเขาคงรับที่พิมหุ่นไม่ดี ไม่น่ารัก เหมือนสาวๆคนอื่นๆ เธอบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดตัวในงานเลสล่า ปกติเธอ chat แล้วเธอจะส่งรูปไป ทอมส่วนใหญ่จะเลิกติดต่อกับเธอ เธอเข้าใจดีว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวย แค่เป็นผู้หญิงที่รอความเมตตา จากบรรดาทอมๆทั้งหลายที่ไม่ได้มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก” (มันจะมีทอมแบบนั้นหรือเปล่า พี่ว่าคงยากนะน้อง) เอาล่ะ แต่คืนนั้นอย่างน้อยเราและเพื่อนๆของเราก็ทำให้น้องพิมมีรอยยิ้มได้
ร่ายยาวไปหน่อย มาเข้าเรื่องที่เธอโทรมาระบายกับเราเมื่อเช้าดีกว่า เธอมีปมอยู่ในใจเกี่ยวกับความไม่น่ารักของเธอ (พี่ก็ไม่เห็นว่าหนูจะหน้าเกลียดตรงไหน แค่อ้วนๆ เตี้ยไปนิด ผิวคล้ำไปหน่อยก็เท่านั้น แต่ในดวงตาหนูแฝงด้วยความจริงใจที่เต็มเปี่ยมนะ พี่ว่า) เมื่อเช้าเธอเล่าว่า “ตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอเธอในงานเลสล่า เธอก็เข็ดทอมไปนาน จนกระทั่งเธอได้มีโอกาสคุยกับทอมคนหนึ่ง “พี่ต่าย” (ถ้าเราฟังชื่อไม่ผิดนะ) ทาง msn เขาพร่ำบอกเธอเสมอว่า “เขามองหาใครสักคนที่จะมาดูแลกันและกันให้นานที่สุด เขาไม่ชอบผู้หญิงสวย เพราะผู้หญิงสวยมักจะทำร้ายเขา (เขาผ่านการอกหักมามาก ว่างั้นเถอะ) เขายอมรับได้ที่เธอเป็นเธอ ไม่ว่าเธอจะหน้าตาหรือรูปร่างเป็นอย่างไร (มีทอมประเสริฐยังงี้ด้วยเรอะ คงอาจจะมีมั้งหรือว่าไม่???)” เธอจึงเชื่อคำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ด้วยความเชื่อในคำพูดเขา เธอจึงดำเนินความสัมพันธ์กันลึกลงไป จนกระทั่ง เขาขอนัดเจอเธอ ก่อนนัดเจอ เธอได้บอกให้รู้ว่า “เธอไม่น่ารัก ไม่สวยนะ” เขารับฟังและไม่ได้ว่าอะไร (เราขอออกความคิดเห็นว่า เขาคงจะคาดไม่ถึง หรือไม่ก็อ่อนแอเกินไป ที่จะยอมรับความจริงในใจว่าตัวเองก็หลงในปัจจัยภายนอกมากกว่าจิตใจ ประเภท “ทอมสร้างภาพ”) เมื่อเขาได้เจอเธอ เขาก็เริ่มแสดงอาการรับไม่ได้ ออกท่าทางรังเกียจให้เห็น (อย่างทุเรศที่สุด) ก่อนกลับเขาได้พูดกับเธอว่า “เราคงคบกันไม่ได้ (อ้าว ไหงงั้นล่ะ) เขาไม่เคยมีแฟนที่ดูไม่ดีขนาดนี้ เขาอยากเป็นพี่เป็นน้องกับเธอมากกว่า” เธอเสียใจมาก (อีกแล้วเรอะ) ไม่คิดว่าการที่เธอจะไว้ใจทอมอีกครั้ง จะทำให้เธอทรมานแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก “ทำไมนะ ถ้าเขารับไม่ได้ ทำไมไม่บอกกันตั้งแต่ตอนคุยกัน มาทำเป็นจิตใจดี สร้างภาพว่า รับได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง ทำไม???”
ในที่สุด เขาก็ได้ฝากคำถามว่า “ทำไม??????” ลงในสมองของเธออีกครั้ง สำหรับความรักครั้งนี้เธอก็คงต้องเจ็บไปอีก (เจ็บซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเดิมแหละน้อง ไม่ใช่ว่าหนูไม่ดีนะ แต่เพราะว่าทอมพวกนั้นตาไม่ถึงต่างหาก รอพี่นะ เมื่อพี่อายุ 30 แล้วพี่ไม่มีใคร ไม่มีทอมที่ไหนเอาพี่ พี่จะตัดสินใจเปลี่ยนเป็นทอมซะเองเลย แล้วคบกับหนู พี่คิดว่าด้วยมั่นคงทางจิตใจและความจริงใจของพี่ คงจะทำให้หัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักของหนู มีรอยยิ้มขึ้นได้บ้าง) ระหว่างรอพี่ ก็ค้นหาต่อไปนะน้อง เผื่อจะเจอคนที่ใช่ในสักวัน ต้องมีสิ อย่างน้อยก็สักคนบนโลกใบนี้ ที่จะไม่มองเพียงภายนอก
เรื่องราวในวันนี้อาจยาวไปสักนิด แต่พวกเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีทอมบางคนหรือดี้บางคนที่ไม่รู้จักตัวเอง แล้วอาจเผลอใจทำร้ายใครอีกหลายๆคน ด้วยความคาดไม่ถึงของพวกเขา เราเชื่อว่า มีทั้งทอมและดี้อีกหลายคนที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับพิม ไม่ใช่ว่าพวกคุณไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่เด่นหรอกนะคะ แต่เพราะคนที่คนมองพวกคุณ ไม่ได้ใช้สมองในการมองพวกคุณต่างหาก ใช้แค่สายตา (ซึ่งหลายครั้งมันก็แสดงภาพลวงตา)
“การค้นหาและการรอคอย” อาจเรียกได้ว่า เป็นกิจวัตรของพวกคุณ แต่อย่าเพิ่งท้อนะคะ เพราะต้องมีคนที่ใช่รอพวกคุณอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่งของเวลา มีกำลังใจและก้าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม แล้วคุณจะพบคุณค่าในตัวของคุณเอง ทำให้มันฉายแสงออกมา ด้วยการรักตัวเอง อย่าทรมานตัวเองด้วยคำว่าผิดหวังและเศร้าใจเลย (จำไว้นะ มีแต่พวกคนอ่อนแอเท่านั้นที่ไม่เห็นค่าของพวกคุณ อาจเพราะเขาไม่คู่ควร) ยิ้มไว้นะ แล้วความรักจะมาเคาะประตูบ้านคุณในสักวัน เคลียร์ตัวเองให้พร้อม ความหวังยังมีเสมอสำหรับคนที่ตื่นรอ
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่าน