O Holy Night
O Holy Night! The stars are brightly shining, It is the night of the dear Saviour's birth. Long lay the world in sin and error pining. Till He appeared and the Spirit felt its worth. A thrill of hope the weary world rejoices, For yonder breaks a new and glorious morn. Fall on your knees! Oh, hear the angel voices! O night divine, the night when Christ was born; O night, O Holy Night , O night divine! O night, O Holy Night , O night divine! Led by the light of faith serenely beaming, With glowing hearts by His cradle we stand. O'er the world a star is sweetly gleaming, Now come the wisemen from out of the Orient land. The King of kings lay thus lowly manger; In all our trials born to be our friends. He knows our need, our weakness is no stranger, Behold your King! Before him lowly bend! Behold your King! Before him lowly bend! Truly He taught us to love one another, His law is love and His gospel is peace. Chains he shall break, for the slave is our brother. And in his name all oppression shall cease. Sweet hymns of joy in grateful chorus raise we, With all our hearts we praise His holy name. Christ is the Lord! Then ever, ever praise we, His power and glory ever more proclaim! His power and glory ever more proclaim!
Merry X’Mas Eve นะคะ เพื่อนๆ หลายคนที่อาจจะเคยเครียด และตกอยู่ในภาวะลุ้นจนตัวโกง เกี่ยวกับเศรษฐกิจและทิศทางของประเทศไทย ณ วินาทีนี้ พวกคุณอาจจะรู้แล้วว่า ทิศทางของประเทศไทยในไตรมาศต่อไปจะเป็นยังไงต่อไป แต่ไม่ว่า สิ่งที่คุณหวังไว้ กับความเป็นจริง จะ Match กันหรือไม่ ก็ต้องยอมรับ เสียงส่วนใหญ่ และสิ่งที่เราเรียกกันว่า “ประชาธิปไตย”
สำหรับคนคริสต์อย่างเรา คืนก่อน X’mas หรือ X’mas Eve นั้น มีความสำคัญ ไม่น้อยไปกว่า Christmas’s Day เลย เรื่องการถือวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) นั้น มีตั้งแต่สมัย พระสันตะปะปาจูลีอัสที่ 1 ทรงประกาศให้สัตบุรุษทุกคนในโลก เฉลิมฉลองวันนั้น โดยที่พระองค์และสัตบุรุษได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยัง ตำบลเบธเลเฮม ยัง “ถ้ำ” ที่พระเยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืน พระสันตะปะปาก็ทรงถวายมิสซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พัก เป็นเวลาเช้ามืด ราวๆ ตีสาม พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้งหนึ่ง และสัตบุรุษเหล่านั้นพากันหลับ แต่ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายมิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้สัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ถวายมิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืนในคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ในโอกาสวันคริสต์มาสเช่นเดียวกัน ตั้งแต่นั้นมา ชาวคริสต์ทั่วโลกจึงถวาย มิสซาเที่ยงคืน และมิสซาวันคริสต์มาส 3 ครั้ง ซึ่งทุกโบสถ์ในเมืองไทย ต้องถือปฏิบัติเสมอมา
เทศกาล X’mas เป็นเทศกาลที่สำคัญมากสำหรับเรา เรารอคอยคืนนี้มานานตลอดทั้งปี และในคืนนี้เราก็ได้มีส่วนร่วม ในการร้องเพลง ร่วมกับวงประสานเสียงของโบสถ์ หากใครรู้จักเรามาก่อน และเคยได้ยินเสียงเราร้องเพลง ก็อาจจะพอรู้ว่า เสียงเราไม่ได้ดี และเพี้ยนสูงบ้าง ต่ำบ้าง แล้วแต่จังหวะ (เรียกได้ว่า ร้องไม่เคยถูกคีย์) แต่ด้วยความพยายาม และการซุ่มซ้อม เป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ รวมถึง “ความตั้งใจ” อย่างจริงๆจัง ที่จะ “ขับกล่อมบทเพลง” เพื่อถวายให้กับ “พระกุมาร” ที่จะ “บังเกิด” มา ในค่ำคืนนี้ เรา “เชื่อมั่น” เป็นอย่างยิ่งว่า “ความศรัทธา และความตั้งใจ” ของเรานั้น จะทำให้ “บทเพลง” ในค่ำคืนนี้ “ศักดิ์สิทธิ์ ไพเราะ และอบอวลด้วยท่วงทำนอง ที่เปล่งออกมาจากหัวใจ”
Merry Christmas ล่วงหน้าสำหรับทุกคนนะคะ “เทศกาลแห่งความสุข ทั้งการมอบความสุข และได้รับความสุข” มีความสุขมากๆ กับทุกๆวันที่จะดำเนินไปนะคะเพื่อนๆ
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
O Holy Night! The stars are brightly shining, It is the night of the dear Saviour's birth. Long lay the world in sin and error pining. Till He appeared and the Spirit felt its worth. A thrill of hope the weary world rejoices, For yonder breaks a new and glorious morn. Fall on your knees! Oh, hear the angel voices! O night divine, the night when Christ was born; O night, O Holy Night , O night divine! O night, O Holy Night , O night divine! Led by the light of faith serenely beaming, With glowing hearts by His cradle we stand. O'er the world a star is sweetly gleaming, Now come the wisemen from out of the Orient land. The King of kings lay thus lowly manger; In all our trials born to be our friends. He knows our need, our weakness is no stranger, Behold your King! Before him lowly bend! Behold your King! Before him lowly bend! Truly He taught us to love one another, His law is love and His gospel is peace. Chains he shall break, for the slave is our brother. And in his name all oppression shall cease. Sweet hymns of joy in grateful chorus raise we, With all our hearts we praise His holy name. Christ is the Lord! Then ever, ever praise we, His power and glory ever more proclaim! His power and glory ever more proclaim!
Merry X’Mas Eve นะคะ เพื่อนๆ หลายคนที่อาจจะเคยเครียด และตกอยู่ในภาวะลุ้นจนตัวโกง เกี่ยวกับเศรษฐกิจและทิศทางของประเทศไทย ณ วินาทีนี้ พวกคุณอาจจะรู้แล้วว่า ทิศทางของประเทศไทยในไตรมาศต่อไปจะเป็นยังไงต่อไป แต่ไม่ว่า สิ่งที่คุณหวังไว้ กับความเป็นจริง จะ Match กันหรือไม่ ก็ต้องยอมรับ เสียงส่วนใหญ่ และสิ่งที่เราเรียกกันว่า “ประชาธิปไตย”
สำหรับคนคริสต์อย่างเรา คืนก่อน X’mas หรือ X’mas Eve นั้น มีความสำคัญ ไม่น้อยไปกว่า Christmas’s Day เลย เรื่องการถือวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) นั้น มีตั้งแต่สมัย พระสันตะปะปาจูลีอัสที่ 1 ทรงประกาศให้สัตบุรุษทุกคนในโลก เฉลิมฉลองวันนั้น โดยที่พระองค์และสัตบุรุษได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยัง ตำบลเบธเลเฮม ยัง “ถ้ำ” ที่พระเยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืน พระสันตะปะปาก็ทรงถวายมิสซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พัก เป็นเวลาเช้ามืด ราวๆ ตีสาม พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้งหนึ่ง และสัตบุรุษเหล่านั้นพากันหลับ แต่ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายมิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้สัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ถวายมิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืนในคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ในโอกาสวันคริสต์มาสเช่นเดียวกัน ตั้งแต่นั้นมา ชาวคริสต์ทั่วโลกจึงถวาย มิสซาเที่ยงคืน และมิสซาวันคริสต์มาส 3 ครั้ง ซึ่งทุกโบสถ์ในเมืองไทย ต้องถือปฏิบัติเสมอมา
เทศกาล X’mas เป็นเทศกาลที่สำคัญมากสำหรับเรา เรารอคอยคืนนี้มานานตลอดทั้งปี และในคืนนี้เราก็ได้มีส่วนร่วม ในการร้องเพลง ร่วมกับวงประสานเสียงของโบสถ์ หากใครรู้จักเรามาก่อน และเคยได้ยินเสียงเราร้องเพลง ก็อาจจะพอรู้ว่า เสียงเราไม่ได้ดี และเพี้ยนสูงบ้าง ต่ำบ้าง แล้วแต่จังหวะ (เรียกได้ว่า ร้องไม่เคยถูกคีย์) แต่ด้วยความพยายาม และการซุ่มซ้อม เป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ รวมถึง “ความตั้งใจ” อย่างจริงๆจัง ที่จะ “ขับกล่อมบทเพลง” เพื่อถวายให้กับ “พระกุมาร” ที่จะ “บังเกิด” มา ในค่ำคืนนี้ เรา “เชื่อมั่น” เป็นอย่างยิ่งว่า “ความศรัทธา และความตั้งใจ” ของเรานั้น จะทำให้ “บทเพลง” ในค่ำคืนนี้ “ศักดิ์สิทธิ์ ไพเราะ และอบอวลด้วยท่วงทำนอง ที่เปล่งออกมาจากหัวใจ”
Merry Christmas ล่วงหน้าสำหรับทุกคนนะคะ “เทศกาลแห่งความสุข ทั้งการมอบความสุข และได้รับความสุข” มีความสุขมากๆ กับทุกๆวันที่จะดำเนินไปนะคะเพื่อนๆ
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน