ผลการตัดสิน The Star 5 ได้ออกมาแล้ว เป็นการตัดสินการชนะระหว่าง “The Star คนแรกที่อายุน้อยที่สุด” หรือ “The Star คนแรกที่แต่งตัวได้เซอร์สุดๆ” ก็เป็นไปตามที่เราคาดเดาไว้ว่า “สิงโต The Star ที่อายุน้อยที่สุด” เป็น “ผู้ชนะ”
ในที่สุดก็เข้า Slogan ของ The Star เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น The Star หญิงคนแรก (ปีที่แล้ว น้องแก้ม ได้เป็น The Star 4) ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการได้แชมป์เป็นผู้หญิง และปีนี้ ก็จะคง Concept เดิมนั่นคือ หาคนที่เป็นที่สุดในแขนงต่างๆ ดูไปเราก็หัวเราะไป นี่ถ้าไม่ติดว่ามี “ดิว” ขวัญใจเราแข่งขันด้วยล่ะก็ จ้างให้ก็ไม่รีบทิ้งทุกอย่างกลับมาบ้านเพื่อมาดูรอบตัดสินหรอก
สำหรับ “ดิว” ไม่เป็นไรนะ นายทำดีที่สุดแล้ว นายอาจไม่ได้เป็น The Star ที่สุด ที่คนไทยทั้งประเทศพยายามให้เป็น แต่นายเป็น “ที่สุด” ในหัวใจเรา แค่นั้นน่าจะเพียงพอแล้วนะ
(ลึกๆก็ผิดหวังกับผลการตัดสินนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ!!!!)
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนแรกว่าจะไม่เขียนแล้ววันนี้ แต่ด้วยอารมณ์ที่อดไม่ได้ และคันนิ้ว อยากจะ “ร่ายรำบน keyboard” ทำให้เราตัดสินใจเขียนดีกว่า เรื่องก็มีอยู่ว่า “เมื่อเย็นนี้ มี ดี้ นางนึง กดโทรศัพท์มาหาเราเป็นการด่วน ขณะที่เรากำลังแต่งตัวออกไปซ้อมเพลง” เธอโทรมาโอดครวญ ร้องไห้ บรรยายความเจ็บปวดจากความรักที่เธอมีเสียยืดยาว เราจับประโยคได้ประมาณว่า
“ทำไม?? เขาไม่รักเราอ่ะ?”
“เราไม่ดีพอหรือ?”
“แต่เราทำดีที่สุดแล้วนะ”
“ความรักของเรา เติมเต็มเขาไม่พอหรือ?”
“แต่รักคือการเสียสละ เราอดทนได้หากเขาจะไม่เลือกเรา”
“แล้วทำไม? เขาไม่เปิดโอกาสให้เราบ้าง”
“เรายอมหลีกทางให้ เพื่อเขาจะได้มีความสุข”
“ทำไมเราต้องรักคนที่เขาไม่รักเรา”
เราฟังเธอ “พร่ำเพ้อ” แล้ว เราก็ได้แต่ยิ้มในใจ และคิดว่า
“ความรัก หนอ ความรัก” จะ “ทำร้าย” ใคร ก็ดูหน้าดูหลังให้ดีหน่อย ดูซิเนี่ย!!! เดือนร้อนชาวบ้าน (อย่างเรา) หมด
“รักมาก ก็ทุกข์มาก แต่ถ้าจะถามว่า “เข็ดไหม?” เจ้าหล่อนก็คงตอบว่า “ยังไหวอยู่ ยังได้อีก” (กี่ราย กี่ราย ก็ตอบแบบนี้ทุกที หายเจ็บหน่อย ก็เริ่มต้นวัฏจักรใหม่)
“นี่ล่ะหนอ ความรัก”
เมื่อมี “ความรัก” ก็ต้องมี “ความกลัว”
เมื่อมี “ความสมหวัง” ก็ต้องมี “ความผิดหวัง”
เมื่อมี “รอยยิ้ม” ก็ต้องมี “น้ำตา”
เมื่อมี “ความสบายใจ” ก็ต้องมี “ความวิตกกังวล”
เราเห็นมาหลายต่อหลายคู่แล้ว ชอบมี “ความรักแบบไม่บรรลุนิติภาวะ” สุดท้ายก็ต้อง “ถูกพรากความสุขไปจากชีวิต” บ้างก็เสียคนไปตลอดชีวิต บ้างก็เสียใจไปหลายปี บ้างก็เป็นบ้าประชดชีวิตรักไปวันๆ
หากเรารักใครสักคน “แบบทางสายกลาง แบบพอเพียง” ความทุกข์ระทม ขมขื่น ประหนึ่ง “ควายถูกเชือด” คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน
หากใครกำลังมีความรักแบบไร้สติ ได้โปรด ปรับแต่ง และเตรียมสภาพจิตใจโดยด่วน ก่อนที่ “จะหมดสภาพ” แบบเพื่อนเราคนนี้
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปเกาะช้างแล้ว ไปเห็นหาดทรายขาว ขี่มอเตอร์ไซค์รับลม อยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตเฉื่อยๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ อาจทำให้ “ความวุ่นวาย ภายในจิตใจ” นั้น “บรรเทา” ลงได้ ไม่มากก็น้อย
ในที่สุดก็เข้า Slogan ของ The Star เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น The Star หญิงคนแรก (ปีที่แล้ว น้องแก้ม ได้เป็น The Star 4) ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการได้แชมป์เป็นผู้หญิง และปีนี้ ก็จะคง Concept เดิมนั่นคือ หาคนที่เป็นที่สุดในแขนงต่างๆ ดูไปเราก็หัวเราะไป นี่ถ้าไม่ติดว่ามี “ดิว” ขวัญใจเราแข่งขันด้วยล่ะก็ จ้างให้ก็ไม่รีบทิ้งทุกอย่างกลับมาบ้านเพื่อมาดูรอบตัดสินหรอก
สำหรับ “ดิว” ไม่เป็นไรนะ นายทำดีที่สุดแล้ว นายอาจไม่ได้เป็น The Star ที่สุด ที่คนไทยทั้งประเทศพยายามให้เป็น แต่นายเป็น “ที่สุด” ในหัวใจเรา แค่นั้นน่าจะเพียงพอแล้วนะ
(ลึกๆก็ผิดหวังกับผลการตัดสินนิดหน่อย แต่ช่างเถอะ!!!!)
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนแรกว่าจะไม่เขียนแล้ววันนี้ แต่ด้วยอารมณ์ที่อดไม่ได้ และคันนิ้ว อยากจะ “ร่ายรำบน keyboard” ทำให้เราตัดสินใจเขียนดีกว่า เรื่องก็มีอยู่ว่า “เมื่อเย็นนี้ มี ดี้ นางนึง กดโทรศัพท์มาหาเราเป็นการด่วน ขณะที่เรากำลังแต่งตัวออกไปซ้อมเพลง” เธอโทรมาโอดครวญ ร้องไห้ บรรยายความเจ็บปวดจากความรักที่เธอมีเสียยืดยาว เราจับประโยคได้ประมาณว่า
“ทำไม?? เขาไม่รักเราอ่ะ?”
“เราไม่ดีพอหรือ?”
“แต่เราทำดีที่สุดแล้วนะ”
“ความรักของเรา เติมเต็มเขาไม่พอหรือ?”
“แต่รักคือการเสียสละ เราอดทนได้หากเขาจะไม่เลือกเรา”
“แล้วทำไม? เขาไม่เปิดโอกาสให้เราบ้าง”
“เรายอมหลีกทางให้ เพื่อเขาจะได้มีความสุข”
“ทำไมเราต้องรักคนที่เขาไม่รักเรา”
เราฟังเธอ “พร่ำเพ้อ” แล้ว เราก็ได้แต่ยิ้มในใจ และคิดว่า
“ความรัก หนอ ความรัก” จะ “ทำร้าย” ใคร ก็ดูหน้าดูหลังให้ดีหน่อย ดูซิเนี่ย!!! เดือนร้อนชาวบ้าน (อย่างเรา) หมด
“รักมาก ก็ทุกข์มาก แต่ถ้าจะถามว่า “เข็ดไหม?” เจ้าหล่อนก็คงตอบว่า “ยังไหวอยู่ ยังได้อีก” (กี่ราย กี่ราย ก็ตอบแบบนี้ทุกที หายเจ็บหน่อย ก็เริ่มต้นวัฏจักรใหม่)
“นี่ล่ะหนอ ความรัก”
เมื่อมี “ความรัก” ก็ต้องมี “ความกลัว”
เมื่อมี “ความสมหวัง” ก็ต้องมี “ความผิดหวัง”
เมื่อมี “รอยยิ้ม” ก็ต้องมี “น้ำตา”
เมื่อมี “ความสบายใจ” ก็ต้องมี “ความวิตกกังวล”
เราเห็นมาหลายต่อหลายคู่แล้ว ชอบมี “ความรักแบบไม่บรรลุนิติภาวะ” สุดท้ายก็ต้อง “ถูกพรากความสุขไปจากชีวิต” บ้างก็เสียคนไปตลอดชีวิต บ้างก็เสียใจไปหลายปี บ้างก็เป็นบ้าประชดชีวิตรักไปวันๆ
หากเรารักใครสักคน “แบบทางสายกลาง แบบพอเพียง” ความทุกข์ระทม ขมขื่น ประหนึ่ง “ควายถูกเชือด” คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน
หากใครกำลังมีความรักแบบไร้สติ ได้โปรด ปรับแต่ง และเตรียมสภาพจิตใจโดยด่วน ก่อนที่ “จะหมดสภาพ” แบบเพื่อนเราคนนี้
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปเกาะช้างแล้ว ไปเห็นหาดทรายขาว ขี่มอเตอร์ไซค์รับลม อยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตเฉื่อยๆ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ อาจทำให้ “ความวุ่นวาย ภายในจิตใจ” นั้น “บรรเทา” ลงได้ ไม่มากก็น้อย