เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เราไปดูหนังเรื่อง final destination 4 มา หนังเรื่องนี้ต้องแน่มากๆ ที่ถ่ายทำมาถึง 4 ภาคแล้ว (เราไม่เคยพลาด ต้องติดตามดูทุกภาค) หากเพื่อนๆคนไหนที่ติดตามหนังเรื่องนี้มาตลอดทุกภาค ก็น่าจะพอรู้ว่า หนังเรื่องนี้มี pattern เดิมๆ แต่จะแตกต่างกันก็ตรงวิธีที่ "ยมฑูตแห่งความตาย" มาเรียกความยุติธรรมคืน จากผู้ที่โกงความตาย (ด้วยความตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม) และวิธีเหล่านี้แหละ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ ท้าทายความอยากรู้อยากเห็นของผู้รับชมได้มาก (และเราก็เป็นพวกอยากรู้อยากเห็นด้วย)
ยิ่งดูหนังเรื่องนี้ ทำให้เราได้เข้าใจ และมองเห็น "สัจธรรมที่แท้จริงของชีวิต" นั่นคือ "ไม่มีใครหนีความตายได้ ไม่ว่าคนๆนั้น จะรู้ล่วงหน้า จะระมัดระวังในการใช้ชีวิตแค่ไหน หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ "หนีจากความตาย" ได้ เมื่อถึงเวลา "ตาย" ทุกคนก็ต้อง "ตาย" ไม่สามารถหนีพ้น ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐีหมื่นล้าน ยาจก คนตัวเล็กๆ หรือ ใหญ่โตแค่ไหน ในโลกใบนี้ สุดท้ายก็ต้อง "ตาย" อยู่ดี"
และที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ "ความตาย" หรือ "วิธีการตาย" ของแต่ละคนนั้น ไม่มี pattern ที่แน่นอน แต่ละคนจะมีวิธีการจบชีวิต และลาจากโลกนี้ แตกต่างกันไป และความมหัศจรรย์ของธรรมชาตินี้แหละ ที่ทำให้ "ชีวิตดูมีความหมาย และความน่าตื่นเต้นที่แตกต่างกันไป"
สำหรับหนังเรื่องนี้ "กระตุ้น และเตือน" ให้เรามองเห็นวิถีความไม่แน่นอนของชีวิต และธรรมชาติมากขึ้น เพราะในทุกๆวินาทีของอนาคต อะไรก็เกิดขึ้นได้ บางทีเราอาจคิดว่า เรายังเด็กอยู่ สาวอยู่ อายุยังน้อย ยังมีโอกาสได้ใช้ชีวิต และสนุกกับชีวิตได้เยอะ แต่เปล่าเลย "ความตาย" ไม่เคยมีกฏ ไม่เคยคำนึงถึงอายุ แต่ความตาย จะเดินมาหาคนที่ไม่เตรียมตัวเองให้พร้อม เราพูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า ทุกๆวันเราต้องใช้ชีวิตแบบซังกะตาย หรือรอเวลาตายมากเกินไป
กฏข้อเดียวก็คือ
"หากเราต้องการชนะ ความตายให้ได้ เราควรดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างไม่ประมาท"
เช่น ไม่โกรธใครข้ามวัน (เพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้เราจะมีโอกาสให้อภัยเขาไหม?)
ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง (เพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้เราจะมีโอกาสได้ทำอะไรไหม?)
พึงกระทำดี ต่อคนที่คุณรัก และเขารักคุณให้มากๆ (เพราะเราไม่รู้ว่า พรุ่งนี้เราจะมีโอกาสเสพความสุขเช่นนี้อีกไหม?)
และเหตุผลอื่นๆที่มากมาย
เมื่อกล่าวถึง "ความตาย" ทำให้เราย้อนมองถึง "การมีชีวิต" และ "เหตุผล" ที่มนุษย์แต่ละคน "กล่าวอ้าง" เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเพียงวันเดียว เดือนเดียว หรือปีเดียว แต่ก็มีคนบางประเภท ที่ไม่พอใจกับการมีชีวิต และต้องการจะ "จบชีวิต" ของตัวเองซะ ด้วยเหตุผลเพียงเล็กๆว่า "ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม โลกนี้ไม่เหมาะสำหรับเขาหรือเธอแล้ว ฯลฯ" สารพัดจะอ้างมาเพื่อ "ดับชีวิต" ของตัวเอง
นี่แหละหนาโลกมนุษย์ "คนอยากตายก็อยากเหลือเกิน สารพัดหาวิธีมาดับชีวิตของตัวเอง คนอยากอยู่ก็อยากเสียเหลือเกิน ยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองได้อยู่ต่อในโลกใบนี้"
และนี่คือ "ความไม่สมดุลของโลกใบนี้" และปัญหาเหลานี้นี่แหละ ทำให้โลกมนุษย์ใบนี้ มีสิ่งดึงดูด น่าสนใจ และน่าค้นหา "เหตุผล และคำตอบ" ใน "คำถาม" ที่เราไม่รู้ด้วยว่่า "จริงๆแล้ว คำตอบมีอยู่จริงไหม?”
และนี่คือ "อัศจรรย์ของชีวิต" ฝากไว้ให้คิดเล่นๆกันนะคะ
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน