Recent News

Powered by eSnips.com

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความทุกข์ในแง่มุมต่างๆ ตอนที่ 1

จะมีใครที่จะพูดบอกกับตัวเองไหมนะว่า “สิ่งที่เราได้พบเจอนั้นดีที่สุดแล้ว"  


หลายต่อหลายครั้ง เราซึ่งเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดานั้น มักจะ "พรำ่บ่น ถึงสิ่งต่างๆมากมาย เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเราตื่นนอน เมื่อเริ่มลืมตาเราก็จะคิดและถามตัวเองว่า วันนี้วันอะไร?  (ทำไมต้องเป็นวันจันทร์ด้วย????) หรือ หากเรามองหน้าตัวเราเองในกระจกแล้ว เกิดมีสิวโผล่ขึ้นมาหนึ่งเม็ด (โดยไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า) เราคงรู้สึกถึงลางไม่ดีของวันนี้เสียแล้ว หรือถ้าหากมีฝนตกตอนเช้า เราก็จะเริ่มหงุดหงิดใจไปกับสภาพอากาศ และความเฉอะแฉะของถนน และหากว่าเราไปช้ากว่ารถเมล์บริการฟรีสำหรับประชาชน เพิ่งออกจากป้ายไปเพียงเสี้ยววินาที "ความวิบัติ" ก็จะเริ่มคืบคลานเข้ามาในวันทำงานวันนั้นของเรา อย่างช่วยไม่ได้


หลายต่อหลายครั้ง ที่เรามักจะมองตัวเอง และเอาตัวเองเป็น "จุดหลัก" เสมอว่า "ชีวิตเราแย่ที่สุดแล้ว หรือเฮงซวยที่สุดแล้วในบรรดาสัตว์โลก" จริงๆแล้ว เราอาจจะ "หลงลืม" หรือ มองโลกในมุมที่แคบเกินไปก็ได้ เพราะในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ อาจจะมีสิ่งมีชีวิต เช่นเดียวกับเรา ที่เขาแทบไม่มีโอกาส หรือมีสิทธิ์ มีเสียงเพียงพอที่จะ "เรียกร้อง" หรือ  "คิดว่าตัวเอง" เป็นส่วนนึงของโลกใบนี้ก็เป็นไปได้ 


เราคลุกคลีอยู่ในสังคม ทอม ดี้ เลส หญิง ชาย กระเทย และเกย์มาพอสมควร เราพอจะเห็นภาพ "วิถีชีวิต" ค่อนข้างจะชัดเจน แต่ละคน มักจะบ่นเรื่อง "ความทุกข์" ในชีวิตของพวกเขาให้เราฟัง ซึ่งก็มีหลากหลาย ต่างกันไปตาม ฐานะทางสังคม และเพศที่เขาได้เลือกไว้


ยกตัวอย่างเช่น 


ผู้ชาย ก็จะบ่นถึงความทุกข์ว่า ท่ามกลางสังคมสมัยนี้ ดูเหมือนภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่สังคมป้อนให้เพศผู้อย่างเขา ดูจะมากมายจนหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาอยากจะผลักภาระนี้ไป ให้ไกลตัวสิ้น แต่ด้วยคำว่า "ชายชาตรี" มันค้ำและหยั่งคอเขาไว้ นั่นยิ่งทำให้ เขาต้องแบกรับ "ความไม่เต็มใจ" (ในบางสถานะไว้เพียงลำพัง ด้วยลำแข้งของเขาเอง


ชายโสด ก็จะว่า ชีวิตของเขามีความทุกข์อย่างมากในการวิ่งตามหา "แม่พันธุ์" ชั้นดี เพื่อจะมา "ผลิตทายาท" ให้กับครอบครัว 


ส่วนชายที่แต่งงานแล้ว ก็มักจะบ่นว่า ความทุกข์ของเขานั้น เริ่มเกิดและก่อตัวขึ้น เมื่อ เขาตัดสินใจขอผู้หญิงสักคนแต่งงาน เพราะ หลังจากวินาทีนั้น ทุกสิ่งรอบตัวในชีวิตของเขานั้น จะผันแปรเป็น "รายจ่าย


ผู้หญิง ก็จะบ่นถึงความทุกข์ว่า ในสภาวะสังคมที่แข่งขันกัน "ฝังและลบเลือน" ตัวตนของตัวเอง โดยการทำ "ศัลยกรรม" เปลี่ยนโหวงเฮ้ง เปลี่ยนชีวิต เพื่อยกระดับไปสู่ trend ที่สังคมกำหนดไว้นั้น สร้างค่านิยม และ สนามแข่งขัน ที่ต้องอาศัย เงินทอง และความอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างมากเป็น "ทุนชีวิต" เพื่อต่อยอด โอกาสทางสังคม


หญิงโสด ความทุกข์ของพวกเธอ ก็จะก่อตัวทุกครั้งที่เปิดนิตยสาร Cleo หรือเดินตามห้างต่างๆ ที่มีของ SALE ความรู้สึก อยากมี อยากได้ ของเธอนั้น ก็จะปะทุ ก่อตัวขึ้นมา และ ไฟความต้องการนี้แหละ ที่สร้างความเชี่ยวชาญ ในการผันเงินในอนาคต บัตรเครดิต ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ ในการดำรงชีวิตของพวกเธอ


ส่วนหญิงที่แต่งงานแล้ว ก็มักจะพร่ำบ่นว่า เธอมีความสุข และสามารถแต่งตัวได้สวยที่สุด ก็ตอนวันแต่งงานเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นแล้ว เธอจะกลายเป็น "แจ๋ว" จำเป็นของบ้านไปในทันที ไม่ต้องพูดถึงถ้าเมื่อไหร่มีลูก ภาระหน้าที่ และความเป็นแม่ ก็จะตัดโอกาส และความสุขของเธอในการใช้ชีิวิต in trend นั้นจนหมดสิ้น




ส่วนในทางของ ญ รัก ญ หลายๆครั้ง ที่เรามักจะได้ยิน เพื่อนเราที่เป็นทอม ดี้ เลส พร่ำบ่น ถึงความไม่แน่นอนของชีวิตคู่ เพราะพวกเราเป็น ญ รัก ญ เป็นเพศที่ผิดธรรมชาติ ไม่มีความรักแท้ หรืออะไรที่ยั่งยืนถาวรหรอก ในชีวิตพวกเรา สุดท้ายเมื่อ ทอม ดี้ และเลส แก่ตัวลง ก็ต้องเป็น ผู้หญิงทึนทึก หรือว่า ถ้าโชคดี ก็จะหาใครสักคน ที่เป็น "ไม้ใกล้ฝั่ง" ประเภทเดียวกันเจอ ก็คงจะมีเพื่อนแก่ได้ไม่ยาก (ก็ต้องแล้วแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคน


นั่นเป็นแค่ทุกข์ถนัดในวัยชรา หรือเป็น ความทุกข์ที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขา รำพึงถึงปลายทางแห่งชีวิต ที่ดูจะเหน็ดเหนื่อยนั้น พวกเขา ก็ไม่ลืมที่บ่นถึงความสัมพันธ์ ณ ปัจจุบัน ที่เขากำลังประสบพบเจออยู่ว่า มีแต่ความทุกข์เช่นกัน


ทอมวันเวย์ และทอมทูเวย์ ความทุกข์ก็จะเกิดให้เขาบ่นกับตัวเองเสมอว่า คบแฟนมากี่คน ไม่ว่า ดี้ หรือ ผู้หญิงปกติ เป็นต้องโดนแต่หลอกเอาเงินซะส่วนมาก หรือไม่ ก็หนีหายกลับไปสู่สามัญ กลับไปคบกับผู้ชายปกติ ทิ้งให้พวกเขาต้องทนแก่ เหี่ยวเฉา ตายไปตามกาลเวลา นี่ขนาดเขาเป็นเพศที่เป็น "ผู้ให้" แบบไม่ต้องการได้รับแล้วนะ (Tom No Refund) และความทุกข์ต่างๆนาๆ ที่เขาต้องเสียใจ เนื่องจากความรักตลอดมา


ดี้ขยัน และดี้ขี้เกียจ ความทุกข์ก็มักจะมาวนเวียน เมื่อพวกเธออายุมากขึ้น สวยและแต่งตึง สู้สาวๆไม่ได้ ในเมื่อเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็เปลี่ยนรสนิยม ชอบ ทอมเด็กมันซะเลย เป็นค่านิยมว่า มีทอมเด็กแล้ว ตัวเองจะดูเด็กและสวยขึ้น แต่ยิ่งคบ ก็เหมือนคบทอมเด็กสร้างหนี้ เพราะต้องคอยเลี้ยง คอยส่งเสียให้เรียน ขนาดดีกับเขายังงี้ สุดท้าย เขาก็ไปหาดี้เด็กอยู่ดี ทิ้งให้ดี้แก่อย่างเรา เฉาและแห้งเหี่ยวตาย ไปตามกาลเวลา


เลสคิง หรือ เลสควีน  ความทุกข์ของเลส ก็คล้ายๆกับความทุกข์ของทอม และดี้ เพียงแต่ว่า เลสนั้นจะเริ่มทุกข์ ตั้งแต่เริ่มค้นหา เพราะว่า แฟนส่วนใหญ่ของเลสส่วนมากจะไม่ใช่ เลสแบบ born to be  ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เคยเป็น ทอม ดี้ หรือว่า ผู้หญิงปกติมาแล้ว แต่พอผิดหวัง ไม่รู้จะฝักใฝ่ฝ่ายใด เลสจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด


(การแบ่งแยกประเภท และการพูดถึงความทุกข์ของเพศต่างๆในด้านบน เป็นเพียงมุมมองของผู้เขียน หาใช่ ข้อเท็จจริงทั้งหมดของสังคมไม่ โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน)


ไม่ว่าจะอยู่เพศไหน ก็ต้องประสบพบเจอกับความทุกข์ เพราะตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์อยู่นั้น ชีวิตก็ต้อง "ดิ้นรน" เพื่อค้นหา ความสุข และสันติภาพภายในจิตใจตลอดแหละ


พรุ่งนี้ เราจะมาเขียน ถึงความทุกข์ในเพศ ของ กระเทย และเกย์ รวมถึงบทสรุปต่างๆ 


ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน