งานเขียนวันนี้เป็นเรื่องเบาๆ เพราะรู้สึกว่า งานเขียนของเรา จะหนักมาติดๆกันหลายๆวันแล้ว ชีวิตช่วงนี้ก็เรื่อยๆเปื่อยๆ ไปวันๆ ว่างเมื่อไหร่ เราเป็นต้องหยิบหนังสือเรื่อง Map of Bones ที่เขียนโดย James Rollins ขึ้นมาอ่าน หนังสือของเขาดีจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า ตัวเองติดกับดักทางตัวอักษรของเขา ต้องออกตัวก่อนว่าจริงๆแล้ว เราไม่ชอบอ่านหนังสือเลย เรืยกได้ว่า นิยายเกาหลี นิตยสาร วารสาร หรือหนังสือพิมพ์ เราไม่เคยแตะ ในห้องนอนเราไม่ว่าจะเป็นหัวเตียง บนโต๊ะหนังสือ หรือชั้นในห้อง หนังสือส่วนใหญ่ เกือบ 90% เป็นหนังสือเชิงปรัชญา และศาสนาทั้งสิ้น และหนังสือทุกเล่มนั้น เราไม่เคยอ่านจบ จะอ่านอย่างละนิด อย่างละหน่อย ค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆ (แล้วแต่ว่าในช่วงเวลานั้น ความสนใจของเราจะไปหยุดอยู่กับหัวข้อไหน) เท่าที่จำได้ นอกจากหนังสือเรียน (ที่จำเป็นต้องอ่านเพื่อใช้ในการสอบแล้ว) หนังสือที่เราอ่านจนจบ และหลายรอบมาก ก็มีเพียง 3 เล่ม มี Bible และหนังสือเกี่ยวกับศาสนาอีก 2 เล่ม ขนาดว่าช่วงนั้นที่กระแส The Davinci Code ดังๆ เราก็ซื้อหนังสือครบ set เลย ทั้ง 4 ่เล่ม ที่ Dan Brown เขียน แต่ก็มาตั้งไว้ ซื้อมาตั้งแต่ปี 2547 แต่ไม่เคยได้อ่าน และยังอีกหลายๆเล่ม
อารมณ์ที่ซื้อตอนนั้นประมาณว่า อยากจะลองอ่านหนังสือให้ได้ทุกแนว แต่พอซื้อมาแล้ว เปิดอ่านหน้าสองหน้า ก็รู้ได้เลยว่า "ไม่โดน" ก็เรียงไว้ในตู้หนังสือ โดยไม่ได้แตะอีกเลย (นอกจากเวลาทำความสะอาด) และเมื่อเร็วๆนี้ ความสนใจของเราก็มุ่งประเด็นไปที่หนังสือเล่มแรกที่ Dan Brown เขียน ชื่อเรื่องว่า Angels and Demons เราพยายามอ่านหนังสือเล่มนั้นจนจบ และเราก็ได้ค้นพบว่า เราสามารถอ่านหนังสือหนาๆ ที่คนทั่วไปใช้เวลาหลายวันในการอ่านจบเป็นกับเขาด้วย เหตุผลง่ายๆ อาจเพราะ หนังสือเล่มนั้น มีเรื่องราวที่เราสนใจด้วย นั่นคือ เกี่ยวกับศาสนา
และหนังสือเล่มที่สองที่เรากำลังอ่านอยู่ เรื่อง Map of Bones นี้ ก็มีจุดสนใจในเชิงศาสนา อาจเรียกได้ว่า สนุก และตื่นเต้นกว่า Angels and Demons หรือ The Davinci Code ก็เป็นได้ เราอ่านได้ครึ่งเล่มแล้ว เดี๋ยวก็จบแล้ว แต่ดูเหมือนหลังๆ speed ในการอ่านของเราจะลดลง เราไม่อยากให้มันจบเลย เพราะเรื่องราวถูกผูกไว้อย่างดีเยี่ยม
หากเพื่อนๆคนไหน ชอบหนังสือแนวนี้ หรือเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เราขอแนะนำ หากใครชอบแนวเดียวกับเรา เราเชื่อมั่นเลยว่า หนังสือเล่มนี้ต้องถูกใจคุณแน่นอน
หนังเรื่อง Harry Potter 6 เข้าโรงแล้ว แต่เรายังไม่มีเวลาไปดูเลย เย็นวันนี้ระหว่างทานข้าวกับพี่ที่โบสถ์ พวกพี่ที่ไปดูมาแล้วหลายๆคน ได้บอกเราว่า "ไม่สนุกเลย มีแต่เรื่องรักๆของวัยรุ่น" คำติของเขาทำให้เราชะงัก ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจอย่างเต็มที่ว่า จะไปดูหนังเรื่องนี้ให้ได้ (แต่ไม่เป็นไร ยังมีเวลาให้เราตัดสินใจอีกตั้งนาน กว่าหนังจะลาโรง)
ช่วงนี้สุขภาพเราก็โอเคดี ไม่เป็นหวัด แล้วเพื่อนๆล่ะคะ สุขภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง ดูแลตัวเองให้ดีนะคะ อากาศเปลี่ยนแปลง บวกกับการกลายพันธุ์ของเชื้อโรคต่างๆ ดูแลสุขลักษณะในชีวิตกันด้วย
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน