วันนี้ ขณะที่เรากำลังเครียดๆอยู่ เราได้หยิบหนังสือเล่มนึงขึ้นมาอ่าน มี “นิทาน” เรื่องนึง ที่เราอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ จึงอยากจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง
ในอดีตมีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรฮีบรู พระนามว่า “โซโลมอน” พระราชาได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมือง ทำของ “วิเศษ” ให้อย่างหนึ่ง โดยของสิ่งนั้น ต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ... ของสิ่งนี้ จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้ “หากมีความทุกข์อยู่ ก็จะหายจากทุกข์ หากมีความสุขอยู่ ก็จะคลายความสุขลง ไม่ว่ากำลังร้องไห้อยู่ หรือหัวเราะอยู่ ก็จะสามารถหยุดอารมณ์ทั้งสองอย่างนั้นได้”
เมื่อครบกำหนด เจ้าเมืองใหญ่เมืองใดๆ ก็ไม่สามารถหาของตามที่พระราชาต้องการได้ แต่มีเจ้าเมืองเล็กๆ อยู่เมืองหนึ่ง ได้บอกว่า มีแหวนวิเศษ มีคุณสมบัติอย่างที่พระราชาต้องการมาถวาย พระราชาจึงรีบให้มาเข้าเฝ้า เมื่อพระราชาได้เห็นแหวนวงนั้นแล้ว ปรากฏว่า เป็นเพียงแหวนทองธรรมดาเรียบๆ วงหนึ่ง
พระราชาก็สงสัยว่า แหวนนี้จะมีความวิเศษได้อย่างไรกัน? เมื่อพระราชานำไปใช้ ก็ปรากฏว่า แหวนวงนี้สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของพระองค์ได้จริงๆ ไม่ว่า พระองค์จะกำลังมีความทุกข์ หรือความสุขอยู่ก็ตาม เพียงเพราะ แหวนวงนั้นมีข้อความสั้นๆ สลักไว้ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป”
ยามใดที่พระราชามีความสุข ความยินดี หรือมีความทุกข์ ความโกรธ ความกังวลไม่สบายใจใดๆ ก็ตาม เมื่อมองไปที่แหวนนี้ ซึ่งเตือนสติพระองค์ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ทำให้พระองค์เข้าใจว่า สิ่งที่พระองค์กำลังประสบอยู่ ไม่ว่าสุข ไม่ว่าทุกข์ มันไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นมาแล้วก็จากไป
นับตั้งแต่นั้นมา พระราชาก็ไม่คิดที่จะนำความทุกข์ มาเป็นกังวล มีความสุขก็ไม่ได้ยึดติดกับความสุขนั้น ทำให้พระราชา สามารถตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และตั้งหน้าตั้งตา ทำเพื่อประชาชนของพระองค์ จนได้ชื่อว่า “เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักใคร่ของประชาชน”
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องประสบกับ “โลกธรรม 8 คือ ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ต้องมีเสื่อมสภาพ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นธรรมดา” หากเราสามารถเตือนสติตนเองได้ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ก็จะช่วยให้เราทำใจเป็นกลาง ทำใจเป็นปกติได้ เมื่อความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้น เช่น หงุดหงิด โกรธ น้อยใจ เสียใจ ขี้เกียจ วิตกกังวล หรือมีความรู้สึกตื่นเต้น ยินดีพอใจก็ตาม
จากการได้อ่านเรื่องข้างบนนี้ ทำให้เรา “ปล่อยวาง” และ “วางใจ” กับสิ่งต่างๆรอบตัวได้เยอะเลย “เห็นไหม ในช่วงเวลาที่สับสน มืดมน ก็มักจะมีแสงสว่างเล็กๆ ลอดออกมา ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับคนแต่ละคนแล้วล่ะว่า จะสังเกตุเห็นหรือเปล่าว่า แสงสว่างนั้นออกมาในรูปแบบไหน”
ถึง ตัว T ของหนู
วันนี้คุณอาจจะแปลกใจ ที่ช่วงเวลาที่หนูกำลังสับสน คิด มีปัญหา หรือเรียบเรียงชิ้นส่วนของเรื่องราว หนูจะอยู่นิ่งๆ เงียบๆเพียงคนเดียว คุณอาจจะน้อยใจ หรือไม่เข้าใจว่า ทำไมหนูไม่แบ่งปันเรื่องราว และปัญหาให้คุณได้ช่วยแบ่งปัน บ้าง
เหตุผลหลักๆก็คือ หนูไม่อยากให้คุณไม่สบายใจไปด้วย หนูอยากจะหาข้อสรุปกับเรื่องราวต่างๆให้ได้ก่อน แล้วค่อยเล่าให้คุณฟัง (ซึ่งโดยปกติ หนูก็กระทำเช่นนั้นอยู่แล้ว) ไม่ใช่หนูไม่อยากให้คุณมาเป็นส่วนนึงของชีวิตนะคะ เพียงแต่ว่า หนูไม่อยากให้เราทั้งสองเครียดไปพร้อมๆกันทั้งคู่ เพราะหากคนนึงล้ม หนูก็อยากให้อีกคนยังมีสติ และมีแรงสู้ต่อไปต่างหาก
เข้าใจหนูนะคะ ทุกๆอย่างที่หนูทำ หนูมีเหตุผล และหนูอาจจะใช้เหตุผลเยอะไป ในทุกๆองค์ประกอบหลักของชีวิต แต่เรื่องเดียวตอนนี้ในชีวิต ที่ดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ก็คือ ความรักที่หนูมอบให้คุณ
I’m not here to say I’m sorry
I’m not here to lie to you
I’m not here to say I’m ready
That I’ve finally thought it through
I’m not here to let your love go
I’m not giving up Oh no
I’m here to win your heart and soul
That’s my GOAL
จะบอกรักคุณก็กลัวคุณเบื่อ (คุณอาจไม่เบื่อกับ “คำว่ารัก” ของหนู แต่หนูเริ่มเบื่อแล้ว) วันนี้เปลี่ยนคำใหม่ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบโดยด่วนว่า Will u marry me?
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
ในอดีตมีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรฮีบรู พระนามว่า “โซโลมอน” พระราชาได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมือง ทำของ “วิเศษ” ให้อย่างหนึ่ง โดยของสิ่งนั้น ต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ... ของสิ่งนี้ จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้ “หากมีความทุกข์อยู่ ก็จะหายจากทุกข์ หากมีความสุขอยู่ ก็จะคลายความสุขลง ไม่ว่ากำลังร้องไห้อยู่ หรือหัวเราะอยู่ ก็จะสามารถหยุดอารมณ์ทั้งสองอย่างนั้นได้”
เมื่อครบกำหนด เจ้าเมืองใหญ่เมืองใดๆ ก็ไม่สามารถหาของตามที่พระราชาต้องการได้ แต่มีเจ้าเมืองเล็กๆ อยู่เมืองหนึ่ง ได้บอกว่า มีแหวนวิเศษ มีคุณสมบัติอย่างที่พระราชาต้องการมาถวาย พระราชาจึงรีบให้มาเข้าเฝ้า เมื่อพระราชาได้เห็นแหวนวงนั้นแล้ว ปรากฏว่า เป็นเพียงแหวนทองธรรมดาเรียบๆ วงหนึ่ง
พระราชาก็สงสัยว่า แหวนนี้จะมีความวิเศษได้อย่างไรกัน? เมื่อพระราชานำไปใช้ ก็ปรากฏว่า แหวนวงนี้สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของพระองค์ได้จริงๆ ไม่ว่า พระองค์จะกำลังมีความทุกข์ หรือความสุขอยู่ก็ตาม เพียงเพราะ แหวนวงนั้นมีข้อความสั้นๆ สลักไว้ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป”
ยามใดที่พระราชามีความสุข ความยินดี หรือมีความทุกข์ ความโกรธ ความกังวลไม่สบายใจใดๆ ก็ตาม เมื่อมองไปที่แหวนนี้ ซึ่งเตือนสติพระองค์ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ทำให้พระองค์เข้าใจว่า สิ่งที่พระองค์กำลังประสบอยู่ ไม่ว่าสุข ไม่ว่าทุกข์ มันไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นมาแล้วก็จากไป
นับตั้งแต่นั้นมา พระราชาก็ไม่คิดที่จะนำความทุกข์ มาเป็นกังวล มีความสุขก็ไม่ได้ยึดติดกับความสุขนั้น ทำให้พระราชา สามารถตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และตั้งหน้าตั้งตา ทำเพื่อประชาชนของพระองค์ จนได้ชื่อว่า “เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักใคร่ของประชาชน”
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องประสบกับ “โลกธรรม 8 คือ ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ต้องมีเสื่อมสภาพ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นธรรมดา” หากเราสามารถเตือนสติตนเองได้ว่า “แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป” ก็จะช่วยให้เราทำใจเป็นกลาง ทำใจเป็นปกติได้ เมื่อความรู้สึกต่างๆเกิดขึ้น เช่น หงุดหงิด โกรธ น้อยใจ เสียใจ ขี้เกียจ วิตกกังวล หรือมีความรู้สึกตื่นเต้น ยินดีพอใจก็ตาม
จากการได้อ่านเรื่องข้างบนนี้ ทำให้เรา “ปล่อยวาง” และ “วางใจ” กับสิ่งต่างๆรอบตัวได้เยอะเลย “เห็นไหม ในช่วงเวลาที่สับสน มืดมน ก็มักจะมีแสงสว่างเล็กๆ ลอดออกมา ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับคนแต่ละคนแล้วล่ะว่า จะสังเกตุเห็นหรือเปล่าว่า แสงสว่างนั้นออกมาในรูปแบบไหน”
ถึง ตัว T ของหนู
วันนี้คุณอาจจะแปลกใจ ที่ช่วงเวลาที่หนูกำลังสับสน คิด มีปัญหา หรือเรียบเรียงชิ้นส่วนของเรื่องราว หนูจะอยู่นิ่งๆ เงียบๆเพียงคนเดียว คุณอาจจะน้อยใจ หรือไม่เข้าใจว่า ทำไมหนูไม่แบ่งปันเรื่องราว และปัญหาให้คุณได้ช่วยแบ่งปัน บ้าง
เหตุผลหลักๆก็คือ หนูไม่อยากให้คุณไม่สบายใจไปด้วย หนูอยากจะหาข้อสรุปกับเรื่องราวต่างๆให้ได้ก่อน แล้วค่อยเล่าให้คุณฟัง (ซึ่งโดยปกติ หนูก็กระทำเช่นนั้นอยู่แล้ว) ไม่ใช่หนูไม่อยากให้คุณมาเป็นส่วนนึงของชีวิตนะคะ เพียงแต่ว่า หนูไม่อยากให้เราทั้งสองเครียดไปพร้อมๆกันทั้งคู่ เพราะหากคนนึงล้ม หนูก็อยากให้อีกคนยังมีสติ และมีแรงสู้ต่อไปต่างหาก
เข้าใจหนูนะคะ ทุกๆอย่างที่หนูทำ หนูมีเหตุผล และหนูอาจจะใช้เหตุผลเยอะไป ในทุกๆองค์ประกอบหลักของชีวิต แต่เรื่องเดียวตอนนี้ในชีวิต ที่ดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ ก็คือ ความรักที่หนูมอบให้คุณ
I’m not here to say I’m sorry
I’m not here to lie to you
I’m not here to say I’m ready
That I’ve finally thought it through
I’m not here to let your love go
I’m not giving up Oh no
I’m here to win your heart and soul
That’s my GOAL
จะบอกรักคุณก็กลัวคุณเบื่อ (คุณอาจไม่เบื่อกับ “คำว่ารัก” ของหนู แต่หนูเริ่มเบื่อแล้ว) วันนี้เปลี่ยนคำใหม่ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบโดยด่วนว่า Will u marry me?
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน