เพื่อนๆเคยมีคำถามในใจ ที่ว่า “ทำไม? คน 2 คน ที่มีชีวิต ถิ่นฐาน และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน จึงได้มาเจอ แล้วรู้สึกประทับใจกัน อย่างกับรู้จักกันมาตั้งนาน” ประโยคที่ว่า “Do you believe in Destiny?” บางคนอาจจะเชื่อ (หัวปักหัวปำ) แม้ไม่เคยเจอกับตัวเอง แต่ก็ยัง็็ามีความหวังเล็กๆที่จะเจอในสักวัน บางคนไม่เชื่อ เพราะไม่เคยเจอ (ก็ต้องแล้วแต่กรณีไป)
“ฤดี” ดี้ ชอบทำบุญ เข้าวัด ผู้เชื่อเรื่อง Destiny มากมาย “ความศรัทธา” ได้นำให้เขามารู้จักกับ “เงา” ทอมผู้ที่หลงไหลอบายมุข เป็นชีวิตจิตใจ และมีความเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ ด้วยหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น เมื่อคน 2 ขั้วมาเจอ และรู้สึกดีๆต่อกัน (โดยที่คนรอบตัวต่าง “งงงวย”) เธอสัมผัสความรักของเขาได้ ทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา แต่สำหรับเขา เขาสัมผัสความรักของเธอได้ ทันทีที่สัมผัสมือกับเธอ ความรักของทั้งคู่เริ่มต้นด้วย “การยอมรับ” ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน
หลายครั้งที่บทสนทนาของทั้งคู่เริ่มต้นด้วย “การแบ่งปันประสบการณ์” และ “กระบวนการตีความทางความคิด” ในเรื่องต่างๆ นำไปสู่ “รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ” (จะมีคู่รักสักกี่คู่นะ ที่ยิ้ม และหัวเราะร่วมกัน)
จนถึงวันนี้ ทั้งคู่ก็ยังหาคำตอบไมได้ ว่าทำไม? คน 2 คน ที่ต่างกันสุดขั้ว มี lifestyle ที่ต่างกัน ถึง “หล่อหลอม รวมเป็นหนึ่ง” ด้วยกันได้ “อย่างลงตัว”
บางคนอาจเคยประสบพบเจอ “destiny” แต่สำหรับบางคน อาจจะไม่เคยเจอ เพราะมัวแต่ใช้เวลาครุ่นคิด เรื่องราวต่างๆของตัวเอง จนลืมมองหรือสังเกตุ “sign or signal” ที่จะมาใน “form หรือ รูปแบบ” ต่างๆ
จงหายใจเข้า-ออกอย่างมี “สติ” เพื่อดึงดูด “รอยยิ้ม” และสร้างสรรค์ “เสียงหัวเราะ” ให้กับกับคนรอบตัวคุณ และคุณจะพบว่า “จุดเริ่มต้น” ของ “ความรัก” และ “การเดินทาง” นั้น อยู่รอบๆตัวคุณเสมอ เพียงแต่รอ “จังหวะ” ที่คุณจะ “หยุด” เพื่อ “สังเกตุ” ก็เท่านั้น
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
“ฤดี” ดี้ ชอบทำบุญ เข้าวัด ผู้เชื่อเรื่อง Destiny มากมาย “ความศรัทธา” ได้นำให้เขามารู้จักกับ “เงา” ทอมผู้ที่หลงไหลอบายมุข เป็นชีวิตจิตใจ และมีความเชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ได้ ด้วยหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น เมื่อคน 2 ขั้วมาเจอ และรู้สึกดีๆต่อกัน (โดยที่คนรอบตัวต่าง “งงงวย”) เธอสัมผัสความรักของเขาได้ ทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของเขา แต่สำหรับเขา เขาสัมผัสความรักของเธอได้ ทันทีที่สัมผัสมือกับเธอ ความรักของทั้งคู่เริ่มต้นด้วย “การยอมรับ” ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน
หลายครั้งที่บทสนทนาของทั้งคู่เริ่มต้นด้วย “การแบ่งปันประสบการณ์” และ “กระบวนการตีความทางความคิด” ในเรื่องต่างๆ นำไปสู่ “รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ” (จะมีคู่รักสักกี่คู่นะ ที่ยิ้ม และหัวเราะร่วมกัน)
จนถึงวันนี้ ทั้งคู่ก็ยังหาคำตอบไมได้ ว่าทำไม? คน 2 คน ที่ต่างกันสุดขั้ว มี lifestyle ที่ต่างกัน ถึง “หล่อหลอม รวมเป็นหนึ่ง” ด้วยกันได้ “อย่างลงตัว”
บางคนอาจเคยประสบพบเจอ “destiny” แต่สำหรับบางคน อาจจะไม่เคยเจอ เพราะมัวแต่ใช้เวลาครุ่นคิด เรื่องราวต่างๆของตัวเอง จนลืมมองหรือสังเกตุ “sign or signal” ที่จะมาใน “form หรือ รูปแบบ” ต่างๆ
จงหายใจเข้า-ออกอย่างมี “สติ” เพื่อดึงดูด “รอยยิ้ม” และสร้างสรรค์ “เสียงหัวเราะ” ให้กับกับคนรอบตัวคุณ และคุณจะพบว่า “จุดเริ่มต้น” ของ “ความรัก” และ “การเดินทาง” นั้น อยู่รอบๆตัวคุณเสมอ เพียงแต่รอ “จังหวะ” ที่คุณจะ “หยุด” เพื่อ “สังเกตุ” ก็เท่านั้น
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน