เมื่อวันก่อนนั่งดูหนังเรื่อง Shallow Hal ทาง True Visions หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของ “ผู้ชาย” คนนึง ที่ต้องการจะคบ และมีสัมพันธ์กับ “ผู้หญิง” ที่สวย perfect เท่านั้น เกือบจะทุกครั้ง ที่เขาพยายามที่จะจีบผู้หญิงสวยเหล่านั้น แต่สุดท้ายเขาก็ต้อง “ผิดหวัง” ถูกปฏิเสธเรื่อยมา แต่เขาก็ไม่ละความพยายาม ยังหน้าด้าน หน้าทน อยู่ด้วยความหวังว่า สักวัน จะมี “สาวสวย perfect” สักคน “โน้มตัวลงมา” เป็นคู่ชีวิตของเขา
จนกระทั่งวันนึงเขาต้องติด lift อยู่กับนักบำบัดจิตคนหนึ่ง และนักบำบัดจิตคนนั้น ก็ได้ร่ายมนต์ให้เขามองเห็นผู้หญิงที่สวยจากภายใน หลังจากวันนั้น เขาได้พบว่า ผู้หญิงสวยอยู่รอบตัวเขามากมาย เธอทั้งสวย อารมณ์ขัน ให้เกียรติ และห่วงใยเขา (เขามองเห็นแต่ส่วนดีของพวกเธอ) ชีวิตเขาในตอนนั้นแสนสุข เมื่อเขาได้หลงรักกับผู้หญิงคนนึง ที่มีภาพสวยงามมากในสายตาของเขา (เขามองเห็นแต่ภาพภายในของหญิงสาว) แต่ภายนอกที่เขาไม่เห็นนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่อ้วน และไม่สวยเอาเสียเลย
และการเปลี่ยน spec สาวกะทันหันของนั้น ทำให้เพื่อนสนิทเขาต้องไปหานักบำบัดจิตคนเดิม เพื่อช่วยแก้มนต์ให้กับเขา ให้เขามองเห็นผู้หญิงจากภายนอกเหมือนเดิม และเมื่อเขาได้เห็น “ภาพภายนอก” ที่แสนอัปลักษณ์ของหญิงคนรัก เขาจึงเริ่มออกห่างเธอ ปฏิเสธหัวใจตัวเอง ด้วย “ความเชื่อของสังคม” ที่พร่ำบอกว่า ผู้หญิงแบบไหนคือ “คนสวย” แต่สุดท้าย “ความรัก” ก็ทำให้หัวใจเขาเรียกร้องเธอคนนั้น อุปสรรคอีกอย่างก็คือ เขาจะเปลี่ยนความเชื่อ และแง่คิด เพื่อที่จะ “ยอมรับ” ตัวตนของเธอให้ได้นั้น เขาจะทำได้หรือเปล่า? (เพื่อนๆไปหา VCD ดูกันเอานะคะ)
เรื่องนี้เป็นเรื่อง “มุมมองของชีวิต” ที่คนเรา “เสพ” เข้าไปโดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว “ถูกหรือผิด” เพราะ “สังคม” ได้ Set “ค่านิยม” ให้เรา แบบเบ็ดเสร็จ และเสร็จสรรพ โดยเลือกเอาเสียงส่วนใหญ่ หรือ บรรทัดฐานอะไรก็ไม่รู้ มาเป็นตัววัด และตัดสิน
“มันจะผิดไหมนะ? ถ้าเราจะคิด หรือมีมุมมองบางสิ่งในชีวิตที่ต่างไปจากคนอื่น?” (แล้วคุณกล้าคิด และมองโลกต่างไปจากคนอื่นไหมล่ะ?)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมสูง ขาว ตี๋ ใส่แว่น นิ้วเรียวยาว เป็น “ทอมหล่อ” (ควรค่าแห่งการแก่งแย่งเพื่อให้ได้มาเป็นสมบัติส่วนตัว)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงตัวเตี้ยๆ ท้วมๆ ตัดผมซอยสั้น ต้องเป็น “ทอม (หลักกิโลเมตร)” จนทำให้เกิดค่านิยมกับเด็กรุ่นใหม่ ที่อาจจะมีรูปร่าง เตี้ยๆ ป้อมๆ ให้เลือกที่จะมาเป็น “ทอม” เพราะลักษณะส่วนใหญ่ของเขาตรงกับ การแบ่งแยกความเป็นทอมพอดี
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงต้องรีดผมให้ตรง ยิ่งตรงเป็นเท่าไหร่ ยิ่งสวย (บางคนรูปศีรษะเล็ก แล้วรีดผมแบนๆอีก เหมือนอะไรก็ไม่รู้)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงเรียบร้อยต้องทาเล็บสีอ่อน (ไม่จริงหรอก เราเรียบร้อย เรายังชอบทาเล็บสีดำ และสีมะเหมี่ยวเลย)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมที่มีอายุแล้ว ต้องทำ highlight ผมสีทอง เพื่อให้มากลบเกลื่อน highlight สีขาวของตัวเอง (กลายเป็นทอมหัว 3 สี 3 กอง5) ช่างคิดจริงๆ
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมต้องใส่ “ผ้ารัดหน้าอก” ตอนรัดหน้าอก ใส่เสื้อผ้าน่ะ ดูดี ไม่เถียงคะ แต่พอถอดออกมาแล้วสิ หน้าอก “เหลว และ เละ” (มิน่าล่ะ ทอมส่วนใหญ่ไม่ชอบถอดเสื้อผ้า เวลามี SEX)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ดี้เวลา "เสียว" ต้องเอาปลายเท้าจิกเตียง เล็บขีดข่วนบนหลังทอม (ถ้าดี้เสียวแล้ว “ถีบ” ทอม จะผิดไหมนะ?)
ในสังคม มี “สิ่งสำเร็จรูป” ให้เรา “เสพ” และ “ตั้งค่าความเชื่อ” ให้กับสมองเรา โดยที่เราไม่ได้เลือก แต่หากคุณมีโอกาสสักครั้งในชีวิต ลอง “เลือก และคิด” การกระทำบางอย่างที่ “บ่งบอก” ความเป็นตัวคุณ ที่แตกต่าง ก็คงจะดีมิใช่น้อย
“ความแตกต่างที่สร้างสรรค์ นำมาซึ่งชีวิตที่น่าค้นหา”
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน
จนกระทั่งวันนึงเขาต้องติด lift อยู่กับนักบำบัดจิตคนหนึ่ง และนักบำบัดจิตคนนั้น ก็ได้ร่ายมนต์ให้เขามองเห็นผู้หญิงที่สวยจากภายใน หลังจากวันนั้น เขาได้พบว่า ผู้หญิงสวยอยู่รอบตัวเขามากมาย เธอทั้งสวย อารมณ์ขัน ให้เกียรติ และห่วงใยเขา (เขามองเห็นแต่ส่วนดีของพวกเธอ) ชีวิตเขาในตอนนั้นแสนสุข เมื่อเขาได้หลงรักกับผู้หญิงคนนึง ที่มีภาพสวยงามมากในสายตาของเขา (เขามองเห็นแต่ภาพภายในของหญิงสาว) แต่ภายนอกที่เขาไม่เห็นนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่อ้วน และไม่สวยเอาเสียเลย
และการเปลี่ยน spec สาวกะทันหันของนั้น ทำให้เพื่อนสนิทเขาต้องไปหานักบำบัดจิตคนเดิม เพื่อช่วยแก้มนต์ให้กับเขา ให้เขามองเห็นผู้หญิงจากภายนอกเหมือนเดิม และเมื่อเขาได้เห็น “ภาพภายนอก” ที่แสนอัปลักษณ์ของหญิงคนรัก เขาจึงเริ่มออกห่างเธอ ปฏิเสธหัวใจตัวเอง ด้วย “ความเชื่อของสังคม” ที่พร่ำบอกว่า ผู้หญิงแบบไหนคือ “คนสวย” แต่สุดท้าย “ความรัก” ก็ทำให้หัวใจเขาเรียกร้องเธอคนนั้น อุปสรรคอีกอย่างก็คือ เขาจะเปลี่ยนความเชื่อ และแง่คิด เพื่อที่จะ “ยอมรับ” ตัวตนของเธอให้ได้นั้น เขาจะทำได้หรือเปล่า? (เพื่อนๆไปหา VCD ดูกันเอานะคะ)
เรื่องนี้เป็นเรื่อง “มุมมองของชีวิต” ที่คนเรา “เสพ” เข้าไปโดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว “ถูกหรือผิด” เพราะ “สังคม” ได้ Set “ค่านิยม” ให้เรา แบบเบ็ดเสร็จ และเสร็จสรรพ โดยเลือกเอาเสียงส่วนใหญ่ หรือ บรรทัดฐานอะไรก็ไม่รู้ มาเป็นตัววัด และตัดสิน
“มันจะผิดไหมนะ? ถ้าเราจะคิด หรือมีมุมมองบางสิ่งในชีวิตที่ต่างไปจากคนอื่น?” (แล้วคุณกล้าคิด และมองโลกต่างไปจากคนอื่นไหมล่ะ?)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมสูง ขาว ตี๋ ใส่แว่น นิ้วเรียวยาว เป็น “ทอมหล่อ” (ควรค่าแห่งการแก่งแย่งเพื่อให้ได้มาเป็นสมบัติส่วนตัว)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงตัวเตี้ยๆ ท้วมๆ ตัดผมซอยสั้น ต้องเป็น “ทอม (หลักกิโลเมตร)” จนทำให้เกิดค่านิยมกับเด็กรุ่นใหม่ ที่อาจจะมีรูปร่าง เตี้ยๆ ป้อมๆ ให้เลือกที่จะมาเป็น “ทอม” เพราะลักษณะส่วนใหญ่ของเขาตรงกับ การแบ่งแยกความเป็นทอมพอดี
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงต้องรีดผมให้ตรง ยิ่งตรงเป็นเท่าไหร่ ยิ่งสวย (บางคนรูปศีรษะเล็ก แล้วรีดผมแบนๆอีก เหมือนอะไรก็ไม่รู้)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ผู้หญิงเรียบร้อยต้องทาเล็บสีอ่อน (ไม่จริงหรอก เราเรียบร้อย เรายังชอบทาเล็บสีดำ และสีมะเหมี่ยวเลย)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมที่มีอายุแล้ว ต้องทำ highlight ผมสีทอง เพื่อให้มากลบเกลื่อน highlight สีขาวของตัวเอง (กลายเป็นทอมหัว 3 สี 3 กอง5) ช่างคิดจริงๆ
ใครช่างบัญญัตินะว่า ทอมต้องใส่ “ผ้ารัดหน้าอก” ตอนรัดหน้าอก ใส่เสื้อผ้าน่ะ ดูดี ไม่เถียงคะ แต่พอถอดออกมาแล้วสิ หน้าอก “เหลว และ เละ” (มิน่าล่ะ ทอมส่วนใหญ่ไม่ชอบถอดเสื้อผ้า เวลามี SEX)
ใครช่างบัญญัตินะว่า ดี้เวลา "เสียว" ต้องเอาปลายเท้าจิกเตียง เล็บขีดข่วนบนหลังทอม (ถ้าดี้เสียวแล้ว “ถีบ” ทอม จะผิดไหมนะ?)
ในสังคม มี “สิ่งสำเร็จรูป” ให้เรา “เสพ” และ “ตั้งค่าความเชื่อ” ให้กับสมองเรา โดยที่เราไม่ได้เลือก แต่หากคุณมีโอกาสสักครั้งในชีวิต ลอง “เลือก และคิด” การกระทำบางอย่างที่ “บ่งบอก” ความเป็นตัวคุณ ที่แตกต่าง ก็คงจะดีมิใช่น้อย
“ความแตกต่างที่สร้างสรรค์ นำมาซึ่งชีวิตที่น่าค้นหา”
ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน