Recent News

Powered by eSnips.com

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552

ทิฐิ

“ทิฐิ” คือ “ความดื้อรั้นในความคิดความเห็นของตนเอง คนเราพอจะพูดกันคุยกัน เพื่อหาความรู้ ความจริง ก็ไปติดตัว “ทิฐิ” เสีย (จนทำให้ต้อง “พลาด” หลายๆโอกาสที่ดีในชีวิตไปอย่างช่วยไม่ได้)

“ทิฐิ” มากั้นความจริง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงความจริงได้ เพราะแต่ละคนมาติดทิฐิ ยึดในทิฐิของตัวเองว่า “ทิฐิของฉัน จะต้องถูก เพราะฉะนั้น การแสวงหาความจริงจึงเดินหน้าไปไม่ได้” จนต้องกลายเป็น “การยึดเอาสิ่งที่ตนเองคิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น” และด้วย “ทิฐิ” ทำให้ไม่ยอมพูดจากันแล้วจะเข้าใจ และรับรู้ความจริงได้อย่างไรกัน? กว่าจะรู้ความจริงอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้

เมื่อคนเราติดในความคิดเห็นนั้น ยึดถือขึ้นมาว่า ความเห็นของฉันต้องถูก และมี “มานะ” เข้ามาหนุนอีก ความเห็นของฉันนั้น ก็กลายเป็นตัวฉันที่ใครๆก็กระทบไม่ได้ พอถึงตอนนี้โอกาสที่จะพบความจริงก็จะหยุดลงแค่นั้น ด้วย “ทิฐิ” ที่แต่ละคนมีนั้น ได้ “ทำลายความเข้าใจ และความรัก” ไปจนหมดสิ้น

“แพร” ทอม และ “นี” ดี้ ทั้งคู่ได้มีโอกาสรู้จัก และลองศึกษากัน แต่ “การพัฒนาในความรักของทั้งคู่” ไม่คืบหน้าเลย มีแต่ “ย้ำอยู่กับที่” อาจด้วยเพราะ “ความกลัว และ ทิฐิ” ของเขาและเธอ เขาต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเธอ เธอก็ต้องการใครสักคนมาร่วมชีวิตตลอดไป

หากแต่ทั้งคู่ “ไม่กล้า” ที่จะพูด และยอมรับสิ่งที่ตัวเองต้องการแก่กันและกัน จึงเกิดปัญหา และเรื่องราวมากมาย จนทำให้ไม่สามารถที่จะมา “ลงเอย” กันได้

เขาเคยมีประสบการณ์ถูก “ความรักทำร้าย” ทำให้เขาดำเนินชีวิต อย่างระมัดระวัง (มากเกินเหตุ) ส่วนเธอ ก็เป็นคนขี้ระแวง ขี้กลัว กลัวว่าจะ “ผิดหวัง และเจ็บปวดจากความรัก” จึงทำให้ “ความสัมพันธ์ของทั้งคู่” ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไร คืบหน้า หรือตื่นเต้น ถึงแม้ว่าในใจของเขาและเธอ จะรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงเกี่ยวกับความรัก แต่ในเมื่อต่างคนต่างมีทิฐิ มาขวางกั้น จึงทำให้ ต่างคนต่างคิดไปเอง ลงความเห็นไปเอง คิดแทนซึ่งกัน (มีชีวิตรักแบบเส้นขนาน ไม่มีวันมาบรรจบกันเสียที)

สุดท้ายทั้งคู่ก็ขอ “ยุติความสัมพันธ์” (แบบต่างคน ต่างคิดเองฝ่ายเดียวเบ็ดเสร็จว่าเธอเป็นอย่างนั้น ฉันเป็นอย่างนี้ ไม่มีวันจะเข้ากันได้) จึงทำให้ความรักต้อง “จบลง” โดยที่ต่างคนต่างเจ็บปวด ไม่ใช่เธอไม่รักเขา และไม่ใช่เขาก็ไม่รักเธอ หากทั้งเธอและเขาต่างรักต่างภักดีต่อกันอย่างสุดซึ้ง แต่ด้วย “ความตั้งมั่น เอาตัวเองเป็น จุดศูนย์กลางแห่งความรัก” ของแต่ละคน“ความผิดพลาด” บนเส้นทางแห่งรัก จึงกลายมาเป็น “โศกนาฏกรรม” ที่เกิดจากเส้นบางๆของ “ปราการแห่ง ทิฐิ" โดยแท้

หากทั้งเธอและเขา ยอมวาง "ทิฐิ" ลงแล้วหันหน้าเข้าหากันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ถามไถ่จากกันและกันอย่างให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย ไหนเลย? จะต้องมาจำพรากทั้งที่ยังรักล้นใจเช่นนั้น

เราคิดว่า คงจะมี “คู่รัก” อีกหลายคู่ ที่กำลังมีปัญหา และก่อปัญหา ต่างฝ่ายต่างต้องการเอาชนะ เพื่อพิสูจน์ความรัก จริงๆแล้ว ความรักไม่ได้มีไว้ให้พิสูจน์ เพราะความรักนั้นมีแต่ให้ และให้ (หากเราทุกคนยอม “ปลดอาวุธ” (ความทิฐิ) ออกไปจากหัวใจ แล้วเดินเข้าหาความรักด้วย “หัวใจที่ว่างเปล่า” เมื่อนั้นแหละ “รักแท้” ที่เคยฝัน ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน