Recent News

Powered by eSnips.com

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ความเป็นเด็ก

ช่วงนี้เรายุ่งมากๆ ช่วงก่อนหน้านี้ แค่ตื่นแต่เช้า แต่เสร็จธุระ ก็ช่วงบ่าย 3 ชีวิตยังพอมีเวลาช่วงเย็นได้ทำอะไรส่วนตัวบ้าง เช่น ขับรถส่องทอม เดินสำรวจทอมตามห้างสรรพสินค้า แต่ช่วงนี้ “เวลาวันนึง 24 ชั่วโมง” ไม่เพียงพอให้เราทำอะไร ตื่นแต่เช้า กว่าจะเสร็จธุระก็ 6 โมงเย็น (เราเป็นคนที่เต็มที่ให้กับทุกๆอย่าง ทำให้ energy เราไม่เพียงพอ) พอกลับบ้านเย็นหน่อย รถก็ติด ถนนก็มืดมิด จะส่องทอมตามถนนก็มองเห็นไม่ชัด กลับมาถึงบ้าน เวลาก็ “ฉิวเฉียด” ทานข้าวเย็นพร้อมกับคุณพ่อ คุณแม่ทุกที ยังไม่ทัน 4 ทุ่ม ก็หลับป๊อกเรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่า “เหนื่อยจนไม่มีเวลาพัก ตกเย็นไม่มีแรงที่จะขับรถกลับบ้าน” (ประกาศ!!!~ รับสมัครพนักงานขับรถ 1 อัตรา ติดต่อส่วนตัวด่วน!!!)

เห็นที ต้องได้เวลา “พักสมอง และหาความบันเทิงใจให้ชีวิตซะแล้ว” (ตามประสาดี้โสดสนิท) หลังจากดำเนินชีวิตเพียงลำพัง นอนคนเดียว ไปทานข้าวคนเดียว เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ขับรถลำพังเพียงคนเดียวมานาน ถ้ากำหนดการไม่เปลี่ยนแปลง วันพุธนี้เราจะเดินทางไป-กลับ กว่า 800 กิโลเมตร ไปตาม “เสียงเรียกของหัวใจ” ไปหาคนที่ทำให้หัวใจเราชุ่มฉ่ำ และสร้างรอยยิ้มให้กับเราเสมอ

หลายคนสงสัย และตีความไปต่างๆนา ว่า เป็น “กิ๊ก แฟน หรือ เพื่อนสนิท” ของเรา ความจริงก็คือ “พิม หรือน้องพิม” เป็นน้องสาวเรา อายุ 7 ขวบ เธอช่างน่ารัก และขี้อ้อนสมวัยเชียว เธอเป็นลูกของอา (น้องชายพ่อ) เธอเป็นเด็กใสๆ ฉลาด ช่างพูด มองโลกในมุมกว้างๆ การที่ได้มองดูชีวิตเด็กคนนึง ที่ไม่มีความกังวลใดๆ ลืมง่าย ไม่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ ช่วยทำให้เราได้คิด และยิ้มไปกับความสดใส ปราศจากหน้ากากของเธอ

วีรกรรมเล็กๆของเธอ มักมีอยู่เสมอ เช่น เตียงห้องเราเป็นเตียงคู่ แต่เธอเลือกที่จะนอนชิดขอบเตียง (เกือบตกเตียง) เราหันไปถามเธอว่า “ทำไม ไม่มานอนใกล้ๆพี่ล่ะ?” คำตอบของเธอก็คือ “หนูเป็นคนนอนดิ้นนะคะ หนูเริ่มนอนตรงนี้แหละดีแล้ว พอดึกๆ จะได้ไม่ไปนอนเบียดพี่มาก หนูกลัวพี่จะตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะหนูคะ” เราไม่ว่าอะไรต่อ หันหน้าไปนอน “อมยิ้ม” ในความน่ารักของเธอ

เป็นคำตอบที่เรียบง่าย ซื่อๆ แต่เต็มเปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์

วีรกรรมต่อไปของเธอ เราพาเธอไปซื้อขนมที่ห้างแห่งหนึ่ง เธอถามเราว่า “จะเอารถเข็น หรือตะกร้า เดี๋ยวหนูไปหยิบให้” เราตอบเธอว่า “รถเข็น” เธอเดินกลับมาพร้อมรถเข็นคันหนึ่ง เราก้มลงกระซิบข้างหูเธอว่า “อยากได้อะไร หยิบเอาเลยนะ เลือกเอา พี่ให้หนูตัดสินใจ” เธอก็เดินจากไป สักพัก เธอกลับมาพร้อมกับขนมหลายห่อในมือ เธอวางขนมพวกนั้นลงในรถเข็น เราก้มลงมองด้วยความแปลกใจ เพราะขนมที่เธอหยิบมานั้น ไม่มีขนมที่ผลิตในไทยเลย จะว่า เธอเคยหากินที่แถวบ้าน ก็คงเป็นไปไม่ได้ เราเลยถามว่า “ทำไมน้องถึงเลือกหยิบขนมพวกนี้มาคะ” เธอตอบเราด้วยแววตาที่ใสๆว่า “น้องไม่เคยทานคะ น้องเห็นว่ามันแปลกดีคะ น้องเลยอยากลองกินดู” แล้วเธอก็เดินไปเลือก ขนกลับมาอีกรอบ

คำตอบที่เธอตอบเรานั้น แสดงให้เห็นว่าเธอมองในสิ่งที่หลากหลาย ไม่ทำอะไรซ้ำๆ เธอกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะเลือก กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

เราเคย “ลองใจ” เธอ โดยทำท่าจะยื่นขนมให้เธอ และเราก็ดึงมือกลับ หลายครั้งที่เธอ “อ้าปาก” รอขนมจากเรา เก้อ อดขนมไปหลายครั้ง แต่ไม่ว่าเราจะ “ลองใจ” แบบนี้บ่อยแค่ไหน เธอก็ยังยื่นปากมาให้เราป้อนอยู่เสมอ เพราะ เด็กๆเช่นเธอ เชื่อว่าในที่สุด “ความรักก็ได้รับชัยชนะเสมอ”

วีรกรรมปิดท้าย เธอเคยทำของรักของหวงเรา “ตกแตก” เธออาจมีหลายวิธีที่จะทำให้ตัวเองไม่ผิด เช่น “ไม่ยอมรับความผิด โยนให้คนอื่นรับซะ” หรือ “ร้องไห้ โวยวาย ใช้น้ำตา หักเหความผิด” แต่เธอเลือกที่จะเดินเข้ามา “ยอมรับ และขอโทษ” เรา เธอเล่าให้เราฟังว่า “เพราะความไม่ระมัดระวัง ของเธอ ที่ทำให้ของตกแตก” เธอเฝ้าถามว่า “เราโกรธไหม?” เธอไม่ได้ตั้งใจ และจะระวัง ไม่ให้ของอะไรตกแตกอีก

ด้วย “การยอมรับ” ของเธอนั้น ทำให้เราลืมของมีค่านั้น (ไม่ว่าจะมีค่าแค่ไหน) เพราะอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ การเจริญชีวิตภายในของเธอ อีกแล้ว

พวกคุณเคย “เสียสละ” หรือ “คาดการณ์ล่วงหน้า” ไว้ก่อนเช่นเธอไหม?

พวกคุณเคย “กล้า” ที่จะ “เปลี่ยนแปลง” และ “ลอง” สิ่งแปลกๆใหม่ๆไหม?

พวกคุณเคย “ก้าวเดิน” ไปทำอะไร “ซ้ำๆ” ถึงแม้ว่าจะเคย “ผิดพลาด” เพราะความเชื่อเช่นนั้นไหม?

พวกคุณเคย “ยอมรับ และขอโทษ” ในสิ่งที่คุณทำผิดไหม?


จงคิด และมองโลกในแง่ดีแบบเด็กๆ (ไม่ใช่ ไม่มีเหตุผล และงอแง แบบเด็กๆ)

ขอบคุณนะคะ “น้องพิม” ความเป็นตัวตนของหนู ทำให้พี่ได้พัฒนา “การมองโลกให้กว้างขึ้น” (อีก 3 วัน เราจะได้เจอกันแน่นอน)

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่าน