เรื่องเมื่อวานหลายๆคน อ่านไปยิ้มไป เพราะตรงกับประสบการณ์ที่พวกเพื่อนๆได้ประสบมา เรื่องทั้ง 5 เรื่อง ของ Mark นี้ จะเกี่ยวกับประสาทรับรู้ทั้ง 5 ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งมี การรับชิมรส การดมกลิ่น การมองเห็น การได้ยิน และการสัมผัส เมื่อวานเราเขียนเรื่อง ประสาทรับรู้ทางด้านการรับชิมรสไปแล้ว วันนี้เราจะมาเขียนเรื่องประสาทรับรู้ทางการดมกลิ่น (เรื่องนี้เรามั่นใจเกินร้อยว่า หลายๆคนอาจเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มา)
Mark ทำงานเป็น Sales ขายยาได้ปีหนึ่งก็ลาออก ไปร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่พังงา และ ณ ที่นั่นเอง เขาได้รู้จักกับ “พราว” สาวใต้ ตาคม ผิวสีน้ำผิ้ง เธอขายของอยู่ข้างๆร้านเขา ทั้งสองได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์จากคำว่า “เพื่อนแล้วกลายเป็นคนรัก” (ในเวลาเพียงไม่นาน) เป็นเรื่องธรรมดาของคนคบกันเป็นแฟนที่จะต้องมี Sex แต่เนื่องจากเธอ ไม่เคยมี Sex กับทอม (เธอเป็นผู้หญิงปกติ) ทำให้เธอกล้าๆกลัว เมื่อเขาขอเธอมี sex เธอก็ผลัดวันเวลาไปเรื่อย และในที่สุดเธอก็ “กล้า และตัดสินใจ” ตกเป็นของเขา
กิจกรรม sex ของทั้งสองปกติเหมือนทอมดี้คู่อื่นๆ แต่มีอยู่วันนึงที่ทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันเพราะเรื่อง Sex วันนั้นเป็นวันเกิดเพื่อนที่สนิทในกลุ่มเธอ ทั้งคู่ไปงานด้วยกัน เธอดื่มมากจนเมา เขาก็เมาแต่ไม่มากนัก (ยิ่งเธอเมา เธอยิ่งมีอารมณ์) เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอและเขาก็ไม่รอช้า เติมเต็มความอยากที่มีมานานตลอดวัน เขาเริ่มบรรเลงกิจกรรมเข้าจังหวะกับเธอโดยทันที เขาเริ่มไซร์เธอทั้งตัว ลากลิ้นลงมาถึงข้างล่างของเธอ (เขาดื่มไม่เยอะมาก ไม่เมามากถ้าเทียบกับเธอ) เขา Oral ให้เธอ เธอเสียว บิดสะโพกไปมา จิกปลายเท้าลงที่เตียง ร้องครวญคราง เขาใช้ปลายจมูกไซร์สลับกับเร่งลิ้นเพื่อให้เธอถึงสวรรค์ แล้วอยู่ดีๆ เธอก็เกร็งสะโพกมากมาย เขาคิดว่าเธอจะเสร็จแล้ว เขาเลยเอาหน้าซุกลงไปลึกอีก แต่แล้วก็มีลมอะไรไม่รู้สวนออกมาอีกทางหนึ่ง เพื่อนๆคะ “เธอตดใส่หน้าเขา” เขาตกใจ เงยหน้าขึ้นมา แต่เธอก็กดหัวเขาลงไปเพราะเธอใกล้จะเสร็จแล้ว เธอพูดว่า “ใกล้แล้ว ต่อสิ ต่อสิ” (เขาบอกเราว่า “ถ้าเขาเมามากกว่านี้เขาก็คงจะก้มไปทำต่อ แต่เผอิญวันนั้นเขาไม่เมามาก”) เขาลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้เธออารมณ์ “ค้าง” อยู่บนเตียง รุ่งเช้า เธอตื่นมาด้วยอาการเมาค้าง และ อารมณ์ค้าง ทำให้เธอหงุดหงิดแล้วคิดจะวีนแตกใส่เขา แต่เขาก็บอก “เลิก” กับเธอก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร
เพื่อนๆคะ เรื่องนี้บางคนอ่านไป อาจจะมองดูว่าตลก เป็นเรื่องบ้าๆ ไร้สาระ แต่ใครที่ไม่เจอกับตัวเอง อาจนึกขำว่าทำไมเขาต้องเลิกกัน เรื่องบางเรื่องในชีวิตคู่มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางเรื่องมันเป็นปัญหาแค่เล็กนิดเดียว แต่ด้วยความที่เราไม่ยอมกัน ทิฐิ ทำให้เราตัดสินใจอะไรบางอย่างลงไป คนเราทุกคนไม่อาจจะยอมรับทุกสิ่งในโลกได้เหมือนกัน เรารู้ว่ามันยากที่เราจะเปิดใจกว้างยอมรับอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะข้อเสียของอีกคน แต่ยังไงก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป ควรใช้ “สติ” ร่วมด้วย อย่าใช้เพียงแต่ “อารมณ์” เพราะมันไม่เคยช่วยอะไรให้ดีขึ้น นอกจากทำให้เรากลายเป็นคน “เสียสติ”
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่าน
Mark ทำงานเป็น Sales ขายยาได้ปีหนึ่งก็ลาออก ไปร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่พังงา และ ณ ที่นั่นเอง เขาได้รู้จักกับ “พราว” สาวใต้ ตาคม ผิวสีน้ำผิ้ง เธอขายของอยู่ข้างๆร้านเขา ทั้งสองได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์จากคำว่า “เพื่อนแล้วกลายเป็นคนรัก” (ในเวลาเพียงไม่นาน) เป็นเรื่องธรรมดาของคนคบกันเป็นแฟนที่จะต้องมี Sex แต่เนื่องจากเธอ ไม่เคยมี Sex กับทอม (เธอเป็นผู้หญิงปกติ) ทำให้เธอกล้าๆกลัว เมื่อเขาขอเธอมี sex เธอก็ผลัดวันเวลาไปเรื่อย และในที่สุดเธอก็ “กล้า และตัดสินใจ” ตกเป็นของเขา
กิจกรรม sex ของทั้งสองปกติเหมือนทอมดี้คู่อื่นๆ แต่มีอยู่วันนึงที่ทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันเพราะเรื่อง Sex วันนั้นเป็นวันเกิดเพื่อนที่สนิทในกลุ่มเธอ ทั้งคู่ไปงานด้วยกัน เธอดื่มมากจนเมา เขาก็เมาแต่ไม่มากนัก (ยิ่งเธอเมา เธอยิ่งมีอารมณ์) เมื่อกลับมาถึงห้อง เธอและเขาก็ไม่รอช้า เติมเต็มความอยากที่มีมานานตลอดวัน เขาเริ่มบรรเลงกิจกรรมเข้าจังหวะกับเธอโดยทันที เขาเริ่มไซร์เธอทั้งตัว ลากลิ้นลงมาถึงข้างล่างของเธอ (เขาดื่มไม่เยอะมาก ไม่เมามากถ้าเทียบกับเธอ) เขา Oral ให้เธอ เธอเสียว บิดสะโพกไปมา จิกปลายเท้าลงที่เตียง ร้องครวญคราง เขาใช้ปลายจมูกไซร์สลับกับเร่งลิ้นเพื่อให้เธอถึงสวรรค์ แล้วอยู่ดีๆ เธอก็เกร็งสะโพกมากมาย เขาคิดว่าเธอจะเสร็จแล้ว เขาเลยเอาหน้าซุกลงไปลึกอีก แต่แล้วก็มีลมอะไรไม่รู้สวนออกมาอีกทางหนึ่ง เพื่อนๆคะ “เธอตดใส่หน้าเขา” เขาตกใจ เงยหน้าขึ้นมา แต่เธอก็กดหัวเขาลงไปเพราะเธอใกล้จะเสร็จแล้ว เธอพูดว่า “ใกล้แล้ว ต่อสิ ต่อสิ” (เขาบอกเราว่า “ถ้าเขาเมามากกว่านี้เขาก็คงจะก้มไปทำต่อ แต่เผอิญวันนั้นเขาไม่เมามาก”) เขาลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้เธออารมณ์ “ค้าง” อยู่บนเตียง รุ่งเช้า เธอตื่นมาด้วยอาการเมาค้าง และ อารมณ์ค้าง ทำให้เธอหงุดหงิดแล้วคิดจะวีนแตกใส่เขา แต่เขาก็บอก “เลิก” กับเธอก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร
เพื่อนๆคะ เรื่องนี้บางคนอ่านไป อาจจะมองดูว่าตลก เป็นเรื่องบ้าๆ ไร้สาระ แต่ใครที่ไม่เจอกับตัวเอง อาจนึกขำว่าทำไมเขาต้องเลิกกัน เรื่องบางเรื่องในชีวิตคู่มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางเรื่องมันเป็นปัญหาแค่เล็กนิดเดียว แต่ด้วยความที่เราไม่ยอมกัน ทิฐิ ทำให้เราตัดสินใจอะไรบางอย่างลงไป คนเราทุกคนไม่อาจจะยอมรับทุกสิ่งในโลกได้เหมือนกัน เรารู้ว่ามันยากที่เราจะเปิดใจกว้างยอมรับอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะข้อเสียของอีกคน แต่ยังไงก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป ควรใช้ “สติ” ร่วมด้วย อย่าใช้เพียงแต่ “อารมณ์” เพราะมันไม่เคยช่วยอะไรให้ดีขึ้น นอกจากทำให้เรากลายเป็นคน “เสียสติ”
ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่าน